ทีไออี สมาร์ท โซลููชั่่น
วิกฤตพลังงาน คือ ปัญหาสำคัญของโลก สำหรับอาคารขนาดใหญ่ที่มีการใช้พลังงานในปริมาณมาก หากสามารถร่วมกันประหยัดพลังงานลงได้ นอกจากจะช่วยลดต้นทุนของตัวเองแล้วยังเป็นการสร้างความยั่งยืนด้านพลังงานให้กับโลกได้อีกด้วย หนึ่งในฮีโร่กู้พลังงาน คือ บริษัท ทีไออี สมาร์ท โซลูชั่น จำกัด ซึ่งก่อตั้งในปี 2560 โดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ที่ใช้ในอาคารและโรงงาน รวมถึงด้านการสื่อสารแบบไร้สายและไอโอทีขั้นสูง พวกเขาให้บริการติดตั้งระบบและแก้ปัญหาด้านการจัดการพลังงาน และความชื้นในอาคารขนาดใหญ่ของไทยไปแล้วกว่า 50 อาคาร และเพิ่มผลิตภาพกระบวนการผลิตไปในกว่า 25 โรงงาน อีกด้วย ผศ. ดร. เด่นชัย วรเดชจำเริญ CEO – TIE Smart Solutions อธิบายให้ฟังว่า ทีไออี สมาร์ท โซลูชั่น คือ ธุรกิจให้บริการที่ปรึกษาด้านการจัดการพลังงานและการวินิจฉัยปัญหาในกลุ่มอาคารเขียว โรงงานและอาคารทั่วไป โดยสร้างและพัฒนาแพลตฟอร์มอัจฉริยะที่มีความซับซ้อนให้บริการวิเคราะห์และตรวจสอบคุณภาพการใช้พลังงานอาคารอัตโนมัติ ด้วยการผสานเทคโนโลยี IoT และ AI แบบเรียลไทม์ให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการผิดพลาดจากการออกแบบ การตรวจรับอาคาร และการดำเนินงานได้อย่างตรงจุด โดยเปิดตัวด้วยผลิตภัณฑ์ชื่อ AI Energy Platform ซึ่งสามารถการันตีการประหยัดพลังงานลงได้อย่างน้อย 15 เปอร์เซ็นต์ ปี 2561 ทีไออีสมาร์ท โซลูชั่น ได้เข้าโครงการ Delta Angel Fund ปีที่ 3 ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และร่วมกิจกรรมกับทางกรมฯ มาอย่างต่อเนื่อง จนปลายปี 2563 ได้เข้าร่วมกิจกรรมเชื่อมโยงตลาดสำหรับวิสาหกิจเริ่มต้น การระดมทุนจาก บริษัท Ensol Co., Ltd ที่รปึกษาด้านการจัดการพลังงานชั้นนำของประเทศไทย ภายใต้กลุ่มธุรกิจ Panya Group รอบ Pre-series A ที่มูลค่าบริษัท 100 ล้านบาท ในสัดส่วน 3% เพื่อร่วมต่อยอดขยายตลาด deep tech HVAC product (สินค้าทางด้านระบบปรับอากาศขั้นสูง) อาทิ ระบบปรับอากาศแบบ smart chillerและ smart variable refrigerant flow (VRF)รวมถึงร่วมเป็นผู้นำด้าน การพัฒนา building energy management system (BEMS) ขั้นสูงเพื่อการลงทุน energy optimization solution ในอนาคต ตอบโจทย์ Net zero energy องค์ความรู้ที่ได้จากโครงการยังนำไปต่อยอดโดยการเตรียมตัวระดมทุนต่อนักลงทุน (VC) ระดับแนวหน้าของไทย และเรียนรู้การขยายตลาดไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอีก 2 ปีข้างหน้า เพื่อปรับโมเดลธุรกิจให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยสามารถขยายไปยังตลาดเวียดนามเพิ่มมูลค่าธุรกิจเป็น 2 เท่า หรืออยู่ที่ 200 ล้านบาทในปี 2564 และมียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 10 ล้านบาท “การได้เข้าร่วมกิจกรรม Startup Connect และมีคอนแท็กต์กับทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ทำให้เรามีคอนเน็กชันที่ดีช่วยต่อยอดธุรกิจต่อไปได้อีกมาก ซึ่ง ในอนาคตนอกจากประเทศไทย มองว่ายังมีโอกาสที่จะ ขยายธุรกิจออกไปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย เนื่องจากสภาพอากาศใกล้เคียงกับเราและยังมีอาคารอยู่ จำนวนมาก โดยปัจจุบันเรายังพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ ของเราอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาอาคารและการ บริหารจัดการต่างๆ ได้ดีขึ้น” เมื่อให้มองถึงศักยภาพของธุรกิจด้านพลังงาน ที่ทำอยู่ คุณวสกกล่าวว่า ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากปัญหาด้านสภาวะอากาศที่ทำให้คนตระหนัก ในเรื่องการใช้พลังงานมากขึ้น ซึ่งนั่นสะท้อนโอกาสในธุรกิจ ของพวกเขา ผศ. ดร. เด่นชัย วรเดชจำเริญ CEO – TIE Smart Solutions บริิษััท ทีีไออีี สมาร์์ท โซลููชั่่น จำำกััด 1706/26 ถนนพระราม 6 แขวงรองเมืือง เขตปทุุมวััน กทม. 10330 โทรศัพท์ 0 2102 3387, 09 4850 3366 https://www.tie-smart.co.th/ ที่มา : รายงานประจำปี 2564 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
21 มี.ค. 2022
Thai Digital School
แพลตฟอร์มเรียน-สอนออนไลน์ ฝีมือคนไทย
24 ม.ค. 2022
Passionext ชูนวัตกรรม Vannarin Intelligent Irrigation System ระบบให้น้ำอย่างชาญฉลาด
จากเกษตรกรกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแวนนาริน ปลูกเสาวรสเพื่อจำหน่าย ต่อยอดสู่ Passionnext ซึ่งคุณธวัช คำแก้ว ก่อตั้งขึ้นเพื่อการพัฒนาด้านการเกษตร ด้วยการนำนวัตกรรมด้านการจัดการน้ำมาใช้ เนื่องจากพืชแต่ละชนิด มีความต้องการน้ำที่แตกต่างกันตามชนิด อายุ ขนาด และช่วงเวลา จึงได้คิดที่จะพัฒนา Vannarin Intelligent Irrigation System ระบบให้น้ำอย่างชาญฉลาดขึ้น โดยได้นำแนวคิดเข้าเสนอขอรับเงินทุนสนับสนุน Delta - Angel Fund จำนวน 400,000 บาท ภายใต้กิจกรรมแหล่งเงินทุนสาหรับผู้ประกอบการและธุรกิจใหม่ ปีงบประมาณ 2562 โดยได้นำเงินทุนสนับสนุนมาสร้างและพัฒนา UX (User Experience) และ UI (User Interface) ออกแบบฐานข้อมูล สร้าง Web app, Prototype และ Application ทดสอบการใช้งาน พัฒนาและปรับปรุงจนออกมาเป็น Vannarin Intelligent Irrigation System ซึ่งสามารถจะคำนวณปริมาณการใช้น้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ง่ายต่อการใช้งาน เป็นระบบแห่งอนาคตที่ให้บริการทางด้านการเกษตรที่ครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพราะการเกษตรจะต้องให้ครบวงจร ทั้งการปลูก การแปรรูป และขาย ทำให้เกษตรกรผู้ผลิตได้พบกับลูกค้าได้ โดยตรงเบื้องต้นจะจำหน่ายผ่านทางเว็บไซต์ เพื่อจำหน่ายให้เกษตรกรได้ทดลองใช้ คาดว่าจะสามารถประหยัดน้ำได้มากกว่าร้อยละ 50-60 ผลผลิตคุ้มค่า รายได้เพิ่มขึ้น 2-3 เท่า คุณปวีณา ประทุมทอง Passionext 56 หมู่ 1 ต.ลี้ อ.ลี้ จ.ลำพูน 51110 โทรศัพท์ : 08 6429 8256 http://www.vannarin.com http://www.passionext.com ที่มา : รายงานประจำปี 2562 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
25 มี.ค. 2020
วินบรอดแบนด์ ใช้กลยุทธ์การรวมกลุ่ม ลดการสูญเปล่า เพิ่มยอดขายให้ธุรกิจ
บริษัท วินบรอดแบนด์ จำกัด ก่อตั้งขึ้นมาในท่ามกลางกระแสการส่งเสริมให้คนไทยหันมาใช้ไอทีและอินเตอร์เน็ตมากขึ้น โดย คุณเสนี มาลีพัตร มีความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสมในทุก ๆ ด้าน พร้อมกับบริการหลังการขายที่ดี ด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ให้จัดหาระบบและบริการต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับธุรกิจ ในฐานะผู้สร้างและพัฒนาระบบ (System Integrator : SI) เพื่อที่จะก้าวสู่การเป็น IT Solution ให้กับธุรกิจทุกขนาด โดยจัดหาวิธีการที่ดีที่สุด ประกอบด้วย DNAS: Device, Network, Application and Services คุณเสนีจึงสนใจการสร้างเครือข่ายกับเพื่อนผู้ประกอบการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจ และได้เช้าร่วมการพัฒนาการรวมกลุ่มและเชื่อมโยงอุตสาหกรรมเป้าหมาย เมื่อได้นำองค์ความรู้จากเพื่อนสมาชิกมาต่อยอดเป็นแนวทางการในพัฒนาสินค้าและบริการ พบว่าช่วยลดของเสียได้ร้อยละ 5 โดยไม่ต้องทดลองเองจนเกิดของเสียในกระบวนการ ทั้งยังลดต้นทุนด้านเวลาได้ร้อยละ 6 จากการนำสินค้าหรือบริการของสมาชิกมาต่อยอด นอกจากนี้ บริษัทยังมีมูลค่ายอดขายที่เพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 10 โดยเน้นการพึ่งพา Digital Marketing ในกลุ่ม เพื่อเพิ่มยอดขายและรายได้ ส่งผลให้มีตลาดในประเทศเพิ่มขึ้นมากถึง 10 แห่ง คุณเสนี มาลีพัตร บริษัท วินบรอดแบนด์ จำกัด 256 หมู่ 6 ถ.เชียงใหม่-หางดง ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50100 โทรศัพท์ 0 5380 6543, 0 5328 0900, 08 1882 9200 (call center) http://www.winbroadband.com/ ที่มา : รายงานประจำปี 2562 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
24 มี.ค. 2020
อินฟราเซท ก้าวสู่ตลาดหลักทรัพย์ mai เพิ่มขีดความสามารถธุรกิจก้าวไกล
จากบริษัทเล็ก ๆ ที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการออกแบบและดำเนินการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางวิศวกรรม จนมาถึงปัจจุบัน บริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) สามารถผงาดอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ได้ภายใต้ชื่อ INSET ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ก่อตั้งคือ คุณศักดิ์บวร พุกกะณะสุต กรรมการผู้จัดการ คิดใหญ่และมองการณ์ไกล ด้วยความเป็นหนึ่งในบริษัทเพียงไม่กี่รายที่ทำธุรกิจแบบครบวงจร ทั้งธุรกิจก่อสร้างศูนย์ข้อมูลและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและโครงข่ายโทรคมนาคม ตลอดจนธุรกิจซ่อมบำรุงและบริการ ซึ่งถือว่ามีแนวโน้มเติบโตที่ดี ทั้งยังอยู่ในอุตสาหกรรมที่ภาครัฐสนับสนุนผ่านโครงการไทยแลนด์ 4.0 แต่เพราะมีข้อจำกัดด้านเงินลงทุนเพื่อที่จะไปต่อ คุณศักดิ์บวรจึงเข้าร่วมโครงการเตรียมความพร้อม SMEs เพื่อเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ปีงบประมาณ 2562 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้ส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยปรับปรุงและพัฒนาระบบควบคุมภายในให้ครอบคลุมกับธุรกิจทั้งหมด เช่น กำหนดแนวทางในการประเมินคุณภาพผู้รับเหมาร่วมกัน จัดทำแผนบริหารความเสี่ยงระดับแผนก พัฒนาระบบบริหารทรัพยากรบุคคล โดยจัดทำขอบเขตงาน กำหนด Career Path รวมทั้งวางแนวทางสร้างแรงจูงใจในการทำงานให้มีประสิทธิภาพที่ดี ส่งผลให้บริษัทมีการดำเนินการที่เป็นระบบ ที่สำคัญมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่กำหนด และมีความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ทั้งนี้ อินฟราเซทได้เปิดซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ mai วันแรก คือวันที่ 8 ตุลาคม 2562 ในราคา 2.69 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 392.74 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,506.4 ล้านบาท ซึ่งคุณศักดิ์บวรตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายใน 5 ปี บริษัทจะต้องติดหนึ่งใน 3 ของบริษัทที่ได้งานโครงการพื้นฐานโทรคมนาคมขนาดใหญ่ของประเทศ คุณศักดิ์บวร พุกกะณะสุต บริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) 165/37-39 อาคารอินฟราเซท ถ.รามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ 10220 โทรศัพท์ 0 2092 7444 https://infraset.co.th/ ที่มา : รายงานประจำปี 2562 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
18 มี.ค. 2020