ผ้ามัดย้อม จากดินเขาแร่เกาะล้าน หนึ่งเดียวในโลก
บนผืนผ้ามัดย้อมสีส้มสวยลวดลายงามเหล่านี้ หากไม่บอกว่า “ย้อมมาจากดิน” ก็คงไม่มีใครรู้ และไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีคนพัฒนา เทคนิคการนำดินมาใช้ย้อมสีผ้าได้อย่างสวยงามจับตา แถมทั้งหมดนี้ยังเกิดจากฝีมือของชาวบ้านเกาะล้านที่คิดริเริ่มสร้างสรรค์ สกัดคุณค่าภายในท้องถิ่นให้ออกมาเป็นคุณค่าระดับ “หนึ่งเดียวในโลก” ได้อย่างน่าทึ่ง! แรกเริ่มเดิมทีเกาะล้านที่เป็นเมืองท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดชลบุรี ยังไม่มีสินค้าประจำพื้นที่ที่พอจะเรียกได้ว่าเป็นของฝากของที่ระลึก ประจำเกาะคุณสรศักดิ์ ทองบงเพชร เลขานุการชุมชนเกาะล้านจึงร่วมกับชาวบ้านใน “กลุ่มอาชีพบ้านเกาะล้าน” คิดริเริ่มสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ อัตลักษณ์ที่จะสร้างความประทับใจและเป็นตัวแทนของเกาะล้าน ให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อหากลับไป โดยเลือก “ผ้ามัดย้อม” มาเป็นโจทย์ แต่เมื่อค้นพบว่าการผลิตผ้ามัดย้อมด้วยสีเคมีต้องใช้ “น้ำ” ในกระบวนการผลิตสูง แต่น้ำนั้นเป็นของหายากบนเกาะล้าน แถมยังมี สารเคมีตกค้างที่ไม่เป็นผลดีต่อธรรมชาติสิ่งแวดล้อมบนเกาะ ทางกลุ่ม จึงได้เข้าร่วมกิจกรรมการให้คำแนะนำด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์เพื่อเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว ภายใต้โครงการการเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอการอุตสาหกรรมสู่การแข่งขันเศรษฐกิจวิถีใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 กับดีพร้อม โดยดีพร้อมได้จัดให้มีผู้เชี่ยวชาญมาร่วมคิดร่วมทดลองนำ “ดินเขาแร่เกาะล้าน” มาใช้เป็นสีย้อม ซึ่งเป็นการนำความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม เทคโนโลยี และอัตลักษณ์ ท้องถิ่น มาใช้ในการออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมทั้ง ยังนำแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนมาต่อยอดให้เกิดมูลค่า เชิงพาณิชย์ ตอบโจทย์การเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว ในพื้นที่ ทำให้สินค้าทุกชิ้นสามารถส่งต่อคุณค่าจากผืนดิน ผืนน้ำทะเล และวิถีชีวิตของคนเกาะล้านได้ อย่างยั่งยืนลงตัวชนิดใครเห็นใครก็ชอบ ไม่ว่าจะเป็น นักท่องเที่ยวชาวไทยหรือชาวต่างประเทศ เพื่อต่อยอดสินค้าให้มีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับมากขึ้น นักออกแบบจึงเข้ามาช่วยคิดแปรรูปผืนผ้าให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่โดนใจตั้งแต่ ชุด เสื้อ หมวก กระเป๋า ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการคิดค้นลายผ้าใหม่ๆ ที่สวยแปลกตา เมื่อได้สินค้าที่โดดเด่นแล้ว ยังมีการส่งเสริมด้านการตลาด ครบวงจร ตั้งแต่ออกแบบโลโก้ แพ็คเกจจิ้ง รวมไปถึงการให้ความรู้ด้านการตลาดออนไลน์และสร้างช่องทาง การจัดจำหน่ายประชาสัมพันธ์สินค้าบนโซเชียลมีเดียและออนไลน์ อีกด้วย เมื่อถามถึงความรู้สึกของคนในกลุ่มอาชีพบ้านเกาะล้าน ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าการได้ร่วมคิดร่วมพัฒนาจาก “ศูนย์” จนสามารถสร้างสรรค์สินค้าที่เป็นตัวแทนเกาะล้านได้ตามที่ตั้งหวัง ก่อเกิดเป็นภูมิปัญญาของท้องถิ่น คือความสำเร็จที่กลายมาเป็นความภาคภูมิใจของคนใน กลุ่มอย่างแท้จริง และที่สำคัญคือการได้ร่วมพัฒนาไป กับดีพร้อมเป็นความร่วมมือที่ยั่งยืน และยินดีที่จะเข้าร่วม โครงการและกิจกรรมอื่น ๆ ต่อไปอย่างแน่นอน - กลุ่มอาชีพ “บ้านเกาะล้าน” - 146 หมู่ที่ 7 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี 20150 - 09 5210 4720 - sorasakvip@gmail.com ที่มา : รายงานประจำปี 2565 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
18 ส.ค 2023
จื้ออ ฟู้ด พร้อมไปต่อด้วยสินค้าใหม่ จากกระบี่สู่ครัวไทย รุกส่งขายทั่วโลก
ใครที่เคยเดินทางไปท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ย่อมต้องรู้จักร้านขายของฝาก ชื่อดังอย่าง “จี้ออ” ที่โดดเด่นต้อนรับนักท่องเที่ยวบนเส้นทาง สู่เมืองกระบี่มากว่า 20 ปี จากจุดเริ่มต้นธุรกิจเล็ก ๆ ของครอบครัวในปี 2548 กับ “น้ำพริกทำมือ” ที่กวนอยู่หลังบ้านขายหน้าบ้านมาสู่การเปิดสาขาใหญ่ จดทะเบียนเป็นบริษัทพร้อมโรงงานมาตรฐาน มีสินค้าให้เลือกสรรหลากหลายไม่ว่า จะเป็น น้ำพริก อาหารทะเลแห้ง ขนมพื้นเมือง และยังรับจ้างผลิตแบบ OEM ให้กับลูกค้า นับเป็นเส้นทางที่ คุณฐณผการจ เดี่ยวประดิษฐ์ เจ้าของกิจการและผู้รังสรรค์เมนูฟันฝ่ามาด้วยมันสมองและสองมือของตัวเอง แม้แต่แนวคิดในการเปลี่ยนโฉมร้านภายใต้คอนเซ็ปต์ “เก็บกระบี่กลับบ้าน” ก็มาจากพลังความคิดสร้างสรรค์และความรักที่มีต่อลูกค้า ทำให้จี้ออ เปลี่ยนจากร้านขายของฝากมาเป็น “ห้องรับแขก-จุดเช็คอิน” ที่ลูกค้าสามารถมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ดี ๆ ก่อนซื้อของดีจากกระบี่กลับบ้านไปพร้อมกัน ซึ่งของดีที่ว่านี้ไม่ใช่แค่คุณภาพดีหาทานที่ไหนไม่ได้ แต่คุณฐณผการจ ยังเพิ่มความประทับใจด้วยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ รสชาติใหม่ทุกปี เพื่อให้ลูกค้าที่แวะเวียนมาได้เซอร์ไพร้ส์เสมอ อาทิ “น้ำพริกกุ้งเสียบ” ตําสด ลูกค้าสามารถซื้อกลับไปมิกซ์เองที่บ้านได้รสชาติเหมือนทานที่ร้าน เต้าส้อไส้ชาชัก ไส้กุ้งเสียบไข่เค็ม หาทานได้ที่จี้ออที่เดียว เป็นต้น แม้จี้ออจะประสบความสำเร็จและสร้างตัวตนในใจลูกค้า นักท่องเที่ยว ได้สมกับความตั้งใจ แต่เพราะลักษณะของธุรกิจที่ยึดโยงกับสถานการณ์ของโลกเป็นหลัก ทำให้เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่กระทบกับการท่องเที่ยว จึงส่งผลต่อธุรกิจอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง นํามาซึ่งการปรับตัวขนานใหญ่อีกครั้ง นั่นคือ การออกไลน์สินค้าใหม่ที่จะรุกไปหาลูกค้าถึงบ้านโดยไม่ต้องรอให้ลูกค้าเดินทางมาหา ซึ่งทางจี้ออโดยคุณคุณผการจได้เข้าร่วมกิจกรรมกา ส่งเสริม SMEs ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป เชิงพาณิชย์ (Agro Genius SMEs) ภายใต้โครงการ ยกระดับสินค้าเกษตรสู่เกษตรอุตสาหกรรมของดีพร้อม เพื่อพัฒนาต่อยอดสินค้าให้ตอบโจทย์ดังกล่าว ใช้เวลาเพียงไม่นานจี้ออก็สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ได้แก่ “แกงคั่วเห็ดแครง คั่วกลิ้งปลา” พร้อมทาน ที่สามารถแข่งขันในตลาดออนไลน์และส่งขายตามห้างใหญ่ๆ ได้อย่างสมภาคภูมิ อีกทั้งยังคงคอนเซ็ปต์ของจี้ออคือ การเผยแพร่อาหารพื้นถิ่นของกินพื้นบ้าน ผสมผสานวิถีชีวิตอัตลักษณ์ชุมชนชาวกระบี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังออกสู่ท้องตลาดก็สร้างยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 3,348,000 บาทต่อปี! คุณผการจเผยให้ฟังว่า ดีพร้อมอยู่เคียงข้างจื้ออ ในทุกสถานการณ์เรียกว่าย้อนกลับไปตั้งแต่เริ่มต้น เปิดโรงงาน จี้ออก็ก้าวเดินและเติบโตมากับดีพร้อมอย่างแท้จริง จากวันนั้นสู่วันนี้ ดีพร้อมยังคงสนับสนุนให้คำปรึกษา และร่วมแก้ปัญหาให้กับจื้อออย่างเข้าถึงเสมอ นับเป็นเพื่อนคู่คิดและมิตรแท้ ที่จะก้าวเดินไปสู่อนาคตด้วยกันอย่างแข็งแกร่งตลอดไป - คุณ ณพการง เตียวประดิษฐ์ - บริษัท จี้ออ ฟู้ด จํากัด - 149/1 หมู่ที่ 3 ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ 81000 - โทรศัพท์ 09 8670 2160 ที่มา : รายงานประจำปี 2565 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
18 ส.ค 2023
บ้านปางงุ้น เปลี่ยนอัตลักษณ์ชุมชน เป็นของฝากสร้างรายได้ที่ยั่งยืน
ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและความหลากหลายทางวัฒนธรรมในชุมชน บ้านปางงุ้น จังหวัดแพร่ มีเสน่ห์ดึงดูดให้ผู้คนสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวที่นี่ เช่น อ่างแม่อาง ม่อนสรอย สวนกนกกร ร้านหมอนไม้ไออุ่น รวมทั้งพิชิตยอดโด่แม่อางที่มีความสูง 350 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งถือว่าสูงที่สุดใน อำเภอวังชิ้น อย่างไรก็ดี คุณสินชัย พุกจินดา ประธานกลุ่มปางงุ้นสีเขียว ท่องเที่ยวสุขใจ ต้องการจะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ของฝากของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งภายหลังจากเขาได้เข้าร่วมการพัฒนาผู้ประกอบการชุมชนในการยกระดับหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ สู่การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน (Creative Industry Village : CIV) ปรากฏว่าชุมชนบ้านปางงุ้นมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการธุรกิจชุมชนอย่างแท้จริง โดยสามารถนำอัตลักษณ์ของชุมชนมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น เมล็ดกาแฟอาราบิก้า ผลผลิตที่ได้จากการเปลี่ยนไร่ข้าวโพดเป็นไร่กาแฟ เพื่อรักษาดิน น้ำ ลดมลพิษทางอากาศ ทั้งยังน้อมนำหลักการเรื่องปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่างของในหลวง รัชกาลที่ 9 มาใช้เพื่อให้นักท่องเที่ยวเลือกซื้อเป็นของฝากของที่ระลึก นอกจากนี้ ยังได้เรียนรู้กลยุทธ์การนำเสนอวิถีชีวิตและอัตลักษณ์ชุมชนให้เป็นที่แพร่หลายผ่านสื่อออนไลน์และสื่อออฟไลน์ รวมทั้งกำหนดกิจกรรมการท่องเที่ยวชุมชนเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้บ้านปางงุ้นมีรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 25,000 บาทต่อเดือน หรือคิดเป็น 300,000 บาทต่อปี คุณสันชัย พุกจินดา บ้านปางงุ้น 170 หมู่ 6 ต.สรอย อ.วังชิ้น จ.แพร่ 54160 โทรศัพท์ 089 851 4603 http://บ้านปางงุ้น.com ที่มา : รายงานประจำปี 2562 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
24 มี.ค. 2020