"ดีพร้อม" เชิญ "ปลัดณัฐพล" ร่วมสำรวจพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ เตรียมผนึกกำลังกระทรวงคมนาคม โชว์ศักยภาพอุตสาหกรรมไทย กระตุ้นซัพพลายเชนอุตสาหกรรมระบบราง ภายใต้ความร่วมมือของ รมว. 2 กระทรวง
กรุงเทพฯ 21 มีนาคม 2568 - ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ลงพื้นที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ) ร่วมด้วย นางดวงดาว ขาวเจริญ นายสุรพล ปลื้มใจ และนายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) โดยมี นายอฎิศักฎิ์ แก้วสองเมือง หัวหน้ากองควบคุมการเดินรถสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ รักษาการนายสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และคณะฯ ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งสรุปภาพรวมการดำเนินงานและนำเยี่ยมชมพื้นที่ภายในสถานีฯ การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงคมนาคม ผ่านการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ภายในพื้นที่สถานีดังกล่าวของการรถไฟแห่งประเทศไทยเพื่อให้มีการใช้สอยพื้นที่ให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน ได้แก่ (1) การจัดมหกรรมสินค้าดีมีคุณภาพราคาทุน โดยจะมีการจำหน่ายสินค้าราคาโรงงานจากผู้ประกอบการรายใหญ่และรายย่อย อาทิ เครือสหพัฒน์ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี วิสาหกิจชุมชน (2) การจัดฝึกอบรม สัมมนา เพื่อเพิ่มทักษะต่าง ๆ ให้กับผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไป รวมถึงการจัดประกวดและแข่งขันต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอุตสาหกรรม อาทิ การใช้เทคโนโลยีคาราคุริ ไคเซน ตลอดจนการจัดกิจกรรมวิ่งเพื่อสุขภาพ เพื่อมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมกับภาคประชาชนมากยิ่งขึ้น และ (3) การลงนามความร่วมมือระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงคมนาคม ในการส่งเสริมและเชื่อมโยงผู้ประกอบการชิ้นส่วนยานยนต์ไทยสู่การเป็นซัพพลายเชนในอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนของระบบราง เพื่อลดการนำเข้าจากต่างประเทศ เนื่องจากผู้ประกอบการชิ้นส่วนไทยมีศักยภาพในการผลิตเทียบเท่ากับต่างประเทศเช่นกัน การบูรณาการความร่วมมือที่จะมีขึ้นระหว่าง 2 หน่วยงานนี้ เป็นอีกหนึ่งการดำเนินงานที่สำคัญของดีพร้อม ภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ผ่านกลยุทธ์การดำเนินงาน 4 ให้ 1 ปฏิรูป ที่มุ่งส่งเสริม พัฒนา และยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการในทุก ๆ ด้านอย่างตรงจุด สอดรับกับนโยบายของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่เน้นการปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ให้ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส เพื่อสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันของ SMEs ไทย พร้อมทั้งผลักดันให้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในซัพพลายเชนของธุรกิจขนาดใหญ่ ตลอดจนการขับเคลื่อนมาตรการ Made by Thais เพื่อส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์ของเอสเอ็มอีไทย อันจะทำให้เกิดการกระตุ้นการลงทุนภายในประเทศ เพื่อผลักดัน GDP ให้เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 1
26 มี.ค. 2025
ดีพร้อม - โตโยต้า โชว์ความสำเร็จ “โครงการความร่วมมือเพื่อพัฒนาวิสาหกิจชุมชนไทยสู่ความยั่งยืน” ยกระดับผู้ประกอบการไทยด้วยกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
กรุงเทพฯ 19 มีนาคม 2568 – ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานกล่าวแสดงความยินดีกับความสำเร็จการดำเนินโครงการความร่วมมือเพื่อพัฒนาวิสาหกิจชุมชนไทยสู่ความยั่งยืน โดยมี นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติกล่าวถึงความร่วมมือระหว่างดีพร้อมกับโตโยต้า และนายสุรภูมิ อุดมวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวสรุปผลสำเร็จ พร้อมด้วย นายสุรพล ปลื้มใจ และ นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายนันทวัฒน์ ศรีวรัตน์อัชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ดีพร้อม ผู้แทนภาคีเครือข่าย ผู้ประกอบการ และสื่อมวลชน เข้าร่วม ณ TOYOTA ALIVE บางนา โครงการดังกล่าว เป็นความร่วมมือกันระหว่าง ดีพร้อม และ บริษัท โตโยต้า ประเทศไทย จำกัด ที่ดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 4 ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ได้มีการร่วมมือกันผ่าน 3 กิจกรรม ได้แก่ (1) กิจกรรมการปรับปรุงกระบวนการผลิตวิสาหกิจชุมชนด้วยระบบการผลิตแบบโตโยต้า โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากโตโยต้ามาให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกในการเพิ่มผลิตภาพด้านการผลิต (2) กิจกรรมการอบรมและประกวดแผนการปรับปรุงธุรกิจ Community Improvement Contest “ทุนลดกำไรเพิ่ม ด้วยแนวทางการปรับปรุงแบบโตโยต้า” เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันวิสาหกิจชุมชน และ (3) กิจกรรมเพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบการเศรษฐกิจฐานราก (Group Camp) ภายใต้โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน (ดีมาก) โดยผู้เชี่ยวชาญจากโตโยต้าฯ ร่วมเป็นวิทยากร ถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ธุรกิจชุมชนเพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่ผู้ประกอบการชุมชน 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ โดยความสำเร็จในวันนี้ เกิดขึ้นจากการร่วมมือกันในรูปแบบพี่ช่วยน้อง หรือ Big Brother โดยการคัดเลือกวิสาหกิจชุมชนที่มีศักยภาพ ผ่านการพัฒนาองค์ความรู้ขั้นต้น ที่ “ดีพร้อม” ให้การส่งเสริมและสนับสนุน ได้มีโอกาสในการเข้าร่วมโครงการโตโยต้าธุรกิจชุมชนพัฒน์ ตามแนวนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้” (DIPROM Community) ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ที่มุ่งเน้นให้วิสาหกิจไทยในระบบการพัฒนาสามารถ “สร้างงาน สร้างรายได้ สร้างเครือข่าย” มีการเติบโต และแข่งขันได้อย่างมั่นคงในอนาคต รวมไปถึงเกิดเป็นห่วงโซ่อุปทานและสามารถช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เป็นฮีโร่ที่ “ดีพร้อม” สร้าง เพื่อให้วิสาหกิจไทยเดินหน้าไปด้วยกัน ตามโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรมไทยสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส” ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งนี้ จากการดำเนินโครงการในปีที่ผ่านมา สามารถพัฒนาธุรกิจชุมชน รวมทั้งสิ้น 9 แห่ง ได้แก่ 1. วิสาหกิจชุมชนแปรรูปข้าวและผลไม้น่าน จ.น่าน 2. วิสาหกิจชุมชนหนองหลวงม่วงไข่แปรรูปพริก จ.แพร่ 3. วิสาหกิจชุมชนฮัซบีโรตีกรอบจิ๋ว จ.สตูล 4. วิสาหกิจชุมชนผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าวเม่า จ.บุรีรัมย์ 5. วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแคปหมูอิ่มสุข จ.อุดรธานี 6. วิสาหกิจชุมชนบ้านช่างสกุลบายศรี จ.ราชบุรี 7. วิสาหกิจชุมชนแปรรูปมะม่วงสวนลุงบุญสมบ้านผารังหมี จ.พิษณุโลก 8. วิสาหกิจชุมชนเพชรคีรีโฮมสเตย์ จ.นครศรีธรรมราช และ 9. วันมอร์ไทยคราฟช็อกโกแลต จ.นครศรีธรรมราช โดยทั้ง 2 หน่วยงานเชื่อมั่นว่า ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว จะสามารถพัฒนาศักยภาพ และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยได้อย่างยั่งยืน
25 มี.ค. 2025
“ดีพร้อม” โชว์ผลสำเร็จขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์อาหาร ปั้นเชฟไฟแรงรุ่นแรก 1,300 คน ประดับครัวไทย พร้อมต่อยอดสู่ครัวโลก คาดสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 1,500 ล้านบาท
จ.นนทบุรี 21 มีนาคม 2568 - นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานพิธีการปัจฉิมนิเทศและมอบใบประกาศนียบัตรโครงการหนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย โดยมี ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวรายงานสรุปภาพรวมโครงการฯ ร่วมด้วย นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ นายศุกกิจ บุญศิริ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายวัชรุน จุ้ยจำลอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร นางดวงดาว ขาวเจริญ นายสุรพล ปลื้มใจ และนายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหาร ผู้ประกอบการ และสื่อมวลชนเข้าร่วมพิธีดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี นนทบุรี ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า รัฐบาลมีนโยบายเรือธงสำคัญในการมุ่งยกระดับทักษะและปลดล็อคศักยภาพของคนไทยในการสร้างงาน สร้างรายได้ผ่านการส่งเสริม 1 ครอบครัว 1 ทักษะซอฟต์พาวเวอร์ หรือ OFOS (One Family One Soft Power) เพื่อพัฒนาความสามารถของคนไทยให้สร้างมูลค่า เพิ่มทักษะใหม่ (Upskill) เสริมทักษะเดิม (Reskill) โดยเฉพาะสาขาอาหารไทย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ที่ทรงพลังที่สุด เพราะเป็นตัวแทนของวัฒนธรรม วิถีชีวิต และความคิดสร้างสรรค์ที่บ่งบอกถึงอัตลักษณ์ของชาติ โดยกระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้นำของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งปฏิรูปอุตสาหกรรมไทยสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ด้วยการยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการให้มีความเข้มแข็ง พัฒนาระบบนิเวศในการดำเนินธุรกิจ และส่งเสริมการประกอบกิจการให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงสนับสนุนการใช้ภูมิปัญญาและทุนทางวัฒนธรรมท้องถิ่นเพื่อยกระดับสินค้า ซึ่งสอดรับกับนโยบายการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาล ได้เร่งผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ในสาขาหลักที่ได้รับมอบหมาย คือ แฟชั่นและอาหาร โดยเฉพาะสาขาอาหาร ซึ่งไทยได้รับการขนานนามว่าเป็น ”ครัวของโลก” จึงมอบหมายกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ร่วมบูรณาการ 7 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ดำเนินโครงการ “หนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย” โดยมุ่งสร้างกำลังคนผ่านการพัฒนาและสร้างทักษะด้านอาหาร รวมถึงเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่ระบบนิเวศของอุตสาหกรรมอาหาร ผ่าน 3 แนวทาง คือ 1. สร้างสรรค์และต่อยอดทุนวัฒนธรรมและภูมิปัญญาสู่วัฒนธรรมสร้างสรรค์ เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ 2. โน้มน้าวให้เปลี่ยนแปลงทางด้านความคิด หรือพฤติกรรมความชอบผ่านการเล่าเรื่องราวที่มีคุณค่าและมีความหมาย (Storytelling) และ 3. เผยแพร่ผ่านเครื่องมือต่าง ๆ อาทิ Influencer ซีรีส์ ละครย้อนยุค นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” มีการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ การพัฒนาหลักสูตรเชฟอาหารไทยมืออาชีพให้สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพ การพัฒนาหลักสูตรอาหารไทย (ตำรับ) โดยจัดทำสื่อความรู้เผยแพร่ผ่านช่องทางต่าง ๆ พร้อมทั้งจัดทำคู่มือหลักสูตรและคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการโดยเชื่อมต่อกับกองทุนหมู่บ้าน รวมถึงการสร้างแรงงานทักษะสูง หรือครูผู้สอน (Train The Trainer) เพื่อให้ครูผู้สอนเข้าใจและนำไปต่อยอดถ่ายทอดให้กับผู้ที่เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรเชฟอาหารไทยมืออาชีพได้อย่างมีคุณภาพ ตลอดจนการพัฒนาทักษะเชฟอาหารไทยมืออาชีพ (Master Thai Chef Program) ด้วยหลักสูตรที่ได้มาตรฐานระดับสากล เพื่อให้สามารถนำทักษะและองค์ความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการประกอบอาชีพ พร้อมเข้ารับการทดสอบคุณวุฒิวิชาชีพต่อไป ซึ่งในปีที่ผ่านมา “ดีพร้อม” สามารถพัฒนาและเพิ่มทักษะให้กับบุคลากรสาขาอาหารกว่า 1,300 คน โดยในจำนวนนี้มีผู้ที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานวิชาชีพ จำนวน 1,040 คน และสร้างครูผู้สอน (Train The Trainer) จำนวน 325 คน และจากความสำเร็จนี้ จะเป็นอีกหนึ่งพลัง Soft Power จากอาหารไทยที่เชฟชุมชนได้รังสรรค์เมนู บอกเล่าคุณค่า เรื่องราว และความมีเสน่ห์ของอาหารไทยให้เป็นที่รู้จัก เกิดการยอมรับในระดับนานาชาติ และเป็นทูตวัฒนธรรมด้านอาหารที่สามารถถ่ายทอดรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทยให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก อีกทั้ง ยังก่อให้เกิดการหมุนเวียนกลับไปสู่เศรษฐกิจท้องถิ่นและระดับประเทศ โดยคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 1,500 ล้านบาท นางสาวณัฏฐิญา กล่าวทิ้งท้าย
24 มี.ค. 2025
“รมว.เอกนัฏ” มอบหมาย “ปลัดณัฐพล” พร้อมด้วย “อธิบดีณัฏฐิญา” ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ดัน "ดีพร้อม" นำอัตลักษณ์ไทย สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจซอฟต์พาวเวอร์สู่สากล
กรุงเทพฯ 19 มีนาคม 2568 – ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจาก นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ครั้งที่ 1/2568 โดยมี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธาน พร้อมด้วย นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และ นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล ที่ประชุมฯ ได้รายงานให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติทราบถึง 1) ความคืบหน้าการจัดทำมาตรการสิทธิประโยชน์ด้านศิลปะ ซึ่งมีเป้าหมายในการสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการจัดงานแสดงศิลปะนานาชาติ (International Art Fair) ที่สำคัญของโลก ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการซื้อขาย/ตลาดศิลปะ เพื่อดึงดูดนักสะสมและนักท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ รวมถึงเป็นการส่งเสริมให้ศิลปินไทยเป็นที่ยอมรับ และมีความมั่นคงทางอาชีพ 2) ความคืบหน้าการจัดงานประกวด Street Art ของเยาวชน โดยมีการเปิดพื้นที่ให้นักเรียนและนักศึกษาในการแสดงความคิดสร้างสรรค์ผ่านศิลปะบนผนังในพื้นที่ต่าง ๆ อาทิ สถานศึกษา รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยว ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ภายใต้แนวคิด “Dream of Thailand” และ 3) ความคืบหน้าการจัดทำหลักสูตร E-learning สาขาต่าง ๆ และการอัพโหลดผ่านเว็บไซต์ ภายใต้โครงการ OFOS เพื่อให้ผู้ที่สนใจเข้าไปอบรมเพิ่มพูนความรู้และทักษะ ทั้งนี้ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ได้ร่วมกันพิจารณาการดำเนินการสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ของสำนักงานกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีการดำเนินการผ่านกลยุทธ์ 6 สร้าง คือ สร้างสื่อ สร้างคน สร้างองค์ความรู้ สร้างภูมิคุ้มกัน สร้างเครือข่าย และสร้างองค์กร ซึ่งได้รับงบประมาณจากกองทุน กทปส. (กสทช.) เป็นหลัก นอกจากนี้ ยังได้พิจารณาแนวทางการขอรับสนับสนุนงบประมาณการดำเนินงานด้านซอฟต์พาวเวอร์ของกองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมด้วย กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ มีนโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส” โดยการสนับสนุนและส่งเสริมการปรับใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้าน (Local Wisdom) ซึ่งเป็นศักยภาพของคนไทยและทุนทางวัฒนธรรมของประเทศไทย ทั้งนี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ได้รับมอบหมายให้ขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ในสาขาหลัก คือ แฟชั่นและอาหาร ผ่านโครงการต่าง ๆ อาทิ โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านแฟชั่น โครงการหนึ่งเชฟ หนึ่งชุมชน โดยขับเคลื่อนผ่าน 3 แนวทาง คือ สร้างสรรค์ต่อยอด โน้มน้าวจูงใจให้ชอบ และเผยแพร่เรื่องราวผ่านสื่อต่าง ๆ ด้วยการยกระดับทักษะเดิม (Upskill) และเพิ่มเติมการสร้างทักษะขึ้นมาใหม่ที่จำเป็นต่อการทำงาน (Reskill) โดยเฉพาะการสร้างทักษะอาชีพในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์หรือซอฟต์พาวเวอร์ไทย ภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ผ่านกลยุทธ์ 4 ให้ 1 ปฏิรูป ซึ่งสอดรับกับนโยบาย OFOS (One family One Soft power) ของรัฐบาล โดยดำเนินการครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ พร้อมผลักดันอัตลักษณ์ ภูมิปัญญา วัฒนธรรมสร้างสรรค์ของไทยสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจซอฟต์พาวเวอร์สู่สากล
24 มี.ค. 2025
83 ปี ที่ดีพร้อม “แม่ทัพณัฏฐิญา” นำทีมผู้บริหาร ข้าราชการและบุคลลากร ร่วมบวงสรวงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในวันครบรอบวันคล้ายวันสถาปนา
กรุงเทพฯ 20 มีนาคม 2568 – นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีบวงสรวงองค์พระนารายณ์ ศาลพระภูมิ และพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ถวายจตุปัจจัยเครื่องไทยธรรม และถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ครบรอบ 83 ปี ร่วมด้วย นางดวงดาว ขาวเจริญ นายสุรพล ปลื้มใจ และนายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) โดยมี ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยอดีตผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม ได้แก่ นายมนู เลียวไพโรจน์ นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รวมทั้งผู้บริหารระดับสูงกระทรวงอุตสาหกรรม ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สังกัดกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เข้าร่วมพิธี ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 6 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) “กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม” ในอดีตเมื่อปี พ.ศ. 2479 มีฐานะเป็นหน่วยงานระดับกอง ภายใต้ชื่อ “กองอุตสาหกรรม” สังกัดกรมพาณิชย์ กระทรวงเศรษฐการ ต่อมาในปี พ.ศ. 2484 ถูกยกฐานะขึ้นเป็น “กรมอุตสาหกรรม” ตามการปรับปรุงส่วนราชการกองเศรษฐการใหม่ และอยู่ภายใต้สังกัด กระทรวงเศรษฐกิจ จากนั้นในปี พ.ศ. 2485 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม” สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม โดยมีบทบาทสำคัญด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรมที่จำเป็นของประเทศ จนถึงปัจจุบัน ซึ่งนับเป็น “83 ปี ที่ดีพร้อม” โดยได้มีการจัดพิธีบวงสรวงองค์พระนารายณ์ พิธีไหว้ศาลพระภูมิ ประจำกระทรวงอุตสาหกรรม และ ไหว้ศาลพระภูมิประจำกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เพื่อความเป็นสิริมงคลและแสดงความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักรักษาหน่วยงาน พร้อมจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ โดยได้รับเกียรติจากผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวงอุตสาหกรรมที่ดำรงตำแหน่งในปัจจุบัน และอดีตผู้บริหารที่เกียณอายุราชการไปแล้ว ตลอดจนหน่วยงานเครือข่ายภาเอกชน เข้าร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง ณ อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) โดยภารกิจหลักที่สำคัญของ “ดีพร้อม” แรกเริ่ม คือ วางแผนการสร้างและส่งเสริมอุตสาหกรรมโรงงาน และอุตสาหกรรมในครอบครัว โดยในอดีตมีหน่วยงานที่รับผิดชอบในการส่งเสริมและพัฒนาผู้ผลิตผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรม รวมถึงสนับสนุนการรวมกลุ่มผู้ผลิตในชุมชนและผู้ประกอบการให้มีความเข้มแข็ง สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ช่วยสร้างงานและรายได้แก่ราษฎรในชนบท ซึ่งเป็นบทบาทของกองพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน หรือ กช.กสอ. หน่วยงานภายใต้สังกัด กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่า กช.กสอ. นับเป็นต้นกำเนิดและรากฐานที่สำคัญของการจัดตั้ง “กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม” ที่เกิดจากการส่งเสริมอุตสาหกรรมในครอบครัวที่ผลิตสินค้าในเชิงหัตถกรรม มาสู่การเป็นอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมในปัจจุบัน ซึ่งเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมาก็เป็นวันคล้ายวันสถาปนากองพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน ครบรอบ 83 ปี เช่นเดียวกัน “83 ปี ที่ดีพร้อม” จึงนับว่าเป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่มีรากฐานที่เข้มแข็ง มีการบ่มเพาะองค์ความรู้และจิตวิญญาณในการสนับสนุนและพัฒนาภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการ และผู้ให้บริการธุรกิจอุตสาหกรรม ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อีกด้วย
24 มี.ค. 2025
"ดีพร้อม" หารือภาคีเครือข่ายเดินหน้าผลักดันโกโก้ไทยสู่ศูนย์กลางของอาเซียน เน้นการพัฒนาครบวงจร ต้นน้ำถึงปลายน้ำ สอดรับนโยบาย รมว.เอกนัฏ
กรุงเทพฯ 18 มีนาคม 2568 - นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจากนางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุมแนวทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโกโก้ ร่วมกับ ผู้แทนจากหน่วยงานภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และ สมาคมการค้าโกโก้และช็อกโกแลตไทย หรือ TACCO คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ดีพร้อม ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 6 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) ในที่ประชุม มีการรายงานความคืบหน้าผลการดำเนินงานการส่งเสริมอุตสาหกรรมโกโก้ ตามแผนการขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมโกโก้ของประเทศไทยในระยะ 3 ปี (พ.ศ. 2567-2569) โดยดำเนินการตาม 4 มาตรการสำคัญ เพื่อพัฒนาองค์ประกอบต่าง ๆ ของอุตสาหกรรมโกโก้ในทุกภูมิภาค ได้แก่ การพัฒนาบุคลากรภาคการเกษตร การพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการ การพัฒนาปัจจัยเอื้อ รวมถึงการส่งเสริมด้านการตลาด ซึ่งในที่ประชุมมีการอัพเดทแผนการดำเนินงานในปี 2568 เพื่อหาแนวทางการทำงานร่วมกันในการผลักดันอุตสาหกรรมโกโก้ของไทยสู่การเป็นศูนย์กลางโกโก้ของภูมิภาคอาเซียน ตามนโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรม สู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส” ของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งประกอบไปด้วย การสร้างองค์ความรู้ การสร้างมาตรฐานให้กับผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการสร้างแบรนด์สู่ระดับสากล เนื่องจาก โกโก้ เป็นพืชเศรษฐกิจที่น่าจับตามอง สามารถสร้างมูลค่าตั้งแต่ผลสด เมล็ดแห้ง และการแปรรูปเป็นสินค้าสร้างสรรค์ สามารถผลักดันและเชื่อมโยงผู้ประกอบการสู่ตลาดสากลได้ ตลอดจนสามารถพัฒนาและยกระดับการแปรรูปโกโก้สู่การเป็นอาหารแห่งอนาคตต่อไป สำหรับการดำเนินงานของ “ดีพร้อม” ได้นำแนวทาง “4 ให้ 1 ปฏิรูป” ภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ที่มุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมโกโก้ตลอดห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ดังนี้ 1) ต้นน้ำ จะมุ่งเน้นการสนับสนุนเทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิตให้กับเกษตรกร ตั้งแต่การปลูก การเก็บเกี่ยว และการหมักเมล็ดโกโก้ 2) กลางน้ำ จะมุ่งเน้นการส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรม กระบวนการผลิต และผลิตภัณฑ์โกโก้ เพื่อพัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์ และยกระดับผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐานสากล และ 3) ปลายน้ำ จะมุ่งเน้นการสนับสนุนตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานโกโก้ เพื่อรองรับการนำไปผลิตเชิงพาณิชย์ ด้วยการ Matching เกษตรกรหรือผู้ผลิตและผู้ค้า ในการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ การพัฒนาระบบตลาด E-commerce พร้อมทั้งเชื่อมโยงการเข้าถึงแหล่งทุน และมาตรการสนับสนุนของภาครัฐอื่น ๆ
24 มี.ค. 2025
คนไทยไม่ทิ้งกัน!! ก.อุตฯ ร่วมกับ รพ.รามา เปิดพื้นที่รับบริจาคโลหิตถึงวันที่ 31 มี.ค. นี้ พร้อมจัดกิจกรรมจิตอาสามอบชุดอาหารว่าง-เครื่องดื่มให้กับผู้บริจาคทุกราย
วันที่ 19 มีนาคม 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายสุรพล ปลื้มใจ และ นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา “ทำความดี ด้วยหัวใจ“ โดยมี นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธาน พร้อมด้วย นางสาวไพลิน เทียนสุวรรณ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายบรรจง สุกรีฑา นายศุภกิจ บุญศิริ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม และผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากเหตุเพลิงไหม้ที่โรงพยาบาลรามาธิบดีทำให้ห้องรับบริจาคโลหิตเสียหายส่งผลให้เกิดการสูญเสียคลังเลือดเป็นจำนวนมาก เพื่อให้โรงพยาบาลฯ และผู้ป่วยมีคลังเลือดที่เพียงพอ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จึงให้กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับโรงพยาบาลรามาธิบดี โดยอำนวยความสะดวกเปิดให้ใช้สถานที่บริเวณห้องโถงชั้น 1 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม สำหรับรับบริจาคโลหิต มีข้าราชการ เจ้าหน้าที่ จิตอาสา และประชาชนทั่วไป มาร่วมบริจาคโลหิต โดยตั้งแต่เปิดรับบริจาควันที่ 13 - 18 มีนาคม 2568 มีผู้บริจาครวมแล้วกว่า 200 ยูนิต ในวันนี้กระทรวงอุตสาหกรรมได้จัดกิจกรรมจิตอาสา “ทำความดี ด้วยหัวใจ” ร่วมสนับสนุนมอบอาหารว่างและเครื่องดื่ม อาทิ ขนมปัง ขนมเค้ก ขนมขบเคี้ยว น้ำดื่มวิตามิน นม น้ำผลไม้ รวมจำนวนกว่า 6,300 ชิ้น ที่ได้รับการสนับสนุนผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ผ่านกิจกรรม “อุตสาหกรรมรวมใจ” เพื่อแทนคำขอบคุณที่ร่วมกันบริจาคโลหิตให้แก่โรงพยาบาลรามาธิบดี ทั้งนี้ ได้เชิญชวนบุคลากรจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม จำนวน 7 หน่วยงานเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา ได้แก่ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งจะมีผู้บริจาคโลหิตเพิ่มเติมในวันนี้กว่า 120 คน กระทรวงอุตสาหกรรมขอเชิญชวนประชาชนและจิตอาสาที่สนใจร่วมบริจาคโลหิตสามารถเดินทางมาบริจาคโลหิตให้กับโรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ที่กระทรวงอุตสาหกรรม ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568 (ยกเว้นวันหยุดราชการ) ระหว่างเวลา 9.00 -14.00 น. ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 ทั้งนี้สามารถจองคิวรับบริจาคโลหิตล่วงหน้าได้ ติดต่อโทร. 0 2200 4202, 0 2200 4208-9
24 มี.ค. 2025
“รองอธิบดีสุรพล” เร่งรัดติดตามการทำงานหน่วยงานในกำกับ ปี 68 พร้อมเน้นย้ำการทำงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ
กรุงเทพฯ 14 มีนาคม 2568 – นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม มอบหมายให้ นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุมเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายงบประมาณและผลการดำเนินงานหน่วยงานในกำกับ ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ครั้งที่ 1/2568 คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ดีพร้อมที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) และในรูปแบบออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น Zoom Meeting การประชุมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินงบประมาณและผลการดำเนินงานของหน่วยงานในกำกับ ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีการรายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณตาม พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 รวมทั้งเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายงบประมาณและผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ประกอบด้วย ผลการเบิกจ่ายงบกลาง และผลการเบิกจ่ายงบกันเหลื่อมปี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 รวมถึงผลการเบิกจ่ายและความคืบหน้าของงบลงทุน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ที่ยังไม่ได้ดำเนินการผูกพันสัญญา ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ตลอดจนการดำเนินงานเงินทุนหมุนเวียน รองอธิบดีสุรพล ได้รับฟังรายงานการดำเนินงาน ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ และการเบิกจ่ายงบประมาณฯ โดยให้ข้อเสนอแนะแนวทางการปฏิบัติงาน รวมถึงนโยบายการปฏิบัติงานต่าง ๆ ดังนี้ 1) กำชับให้หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบกลาง และงบกันเหลื่อมปี ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 รวมทั้งงบลงทุนของปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ 2) โครงการและกิจกรรมที่ดำเนินการปี 2568 ขอให้ใช้จ่ายงบประมาณฯ เป็นไปตามแผนงานที่กำหนด 3) โครงการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ตามนโยบายของรัฐบาล ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างขอให้ดำเนินการตามระเบียบ ให้มีการประสานงานภายในคณะกรรมการฯ เพื่อให้สามารถผูกพันสัญญาให้ได้เร็วที่สุด 4) การเตรียมการจัดกิจกรรมที่ MICE Center จังหวัดลำปาง เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากสถานที่ 5) การหารือแนวทางการจัดกิจกรรมเพื่อแสดงผลการดำเนินงานและประชาสัมพันธ์ของแต่ละหน่วยงาน ในบริเวณพื้นที่ชั้น 1 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม 6) ให้แนวทางการดำเนินงานเงินทุนหมุนเวียนฯ แลกเปลี่ยนแนวคิดการหาลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพ และการชำระเงินกู้ การออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อตัวใหม่เพื่อดึงดูดความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการแลกเปลี่ยนแนวทางการทำงานพร้อมขานรับนโยบาย อธิบดีณัฏฐิญา ให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการให้บริการผู้ประกอบการได้อย่างตรงจุด ซึ่งสอดรับกับนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้ (DIPROM Community)” ที่มุ่งปฏิรูปดีพร้อมให้เป็นองค์กรที่ทันสมัยสามารถให้บริการวิสาหกิจไทยได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ อันจะทำให้อุตสาหกรรมเศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืนตามนโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรมไทย สู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส” ของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมด้วย
18 มี.ค. 2025
DIPROM ผนึก MIND “เปิดพื้นที่แสดงออก ไม่ตีกรอบความคิด” ดึงวัฒนธรรมถ่ายทอดพลังซอฟต์พาวเวอร์ผ่านศาสตร์แห่งอาหารไทย หวังดันครัวไทยสู่ตลาดโลก ตามนโยบายปฏิรูปอุตสาหกรรมเศรษฐกิจยุคใหม่ “ยกระดับศักยภาพสร้างสรรค์ทุกพื้นที่” ของ รมว.เอกนัฏ
กรุงเทพฯ 13 มีนาคม 2568 - ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานงาน Exclusive Talk & Networking “ถ่ายทอดพลังซอฟต์พาวเวอร์ผ่านศาสตร์แห่งอาหารไทยสู่เวทีโลก” Shaping Soft Power through Thai Cuisine toward Global Influence โดยมี นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวรายงาน ร่วมด้วย นายบรรจง สุกรีฑา รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นางดวงดาว ขาวเจริญ นายสุรพล ปลื้มใจ และนายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร ผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐ-เอกชน ผู้แทนจากคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนซอตฟต์พาวเวอร์อุตสาหกรรมด้านต่าง ๆ ผู้แทนจากหน่วยร่วมดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ สาขาอาหาร และผู้ประกอบการเข้าร่วม ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 7 โรงแรมเดอะ เวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ภายใต้การนำของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มีนโยบายปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะดวก สะอาด โปร่งใส โดยมุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมเศรษฐกิจทั้งด้านการผลิต การใช้พลังงานสะอาด การพัฒนาแรงงาน และผลักดันศักยภาพของแต่ละพื้นที่อย่างเหมาะสม ตลอดจนสนับสนุนการนำภูมิปัญญาพื้นบ้านและทุนทางวัฒนธรรมมาปรับใช้ เพื่อสร้างรายได้และโอกาสในการแข่งขันทางธุรกิจ ซึ่งสอดรับกับนโยบายการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาล ที่มุ่งสนับสนุนการสร้างพลังสร้างสรรค์ หรือซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ด้วยการส่งเสริมและยกระดับภูมิปัญญาไทยไปสู่วัฒนธรรมสร้างสรรค์ พัฒนาศักยภาพบุคลากร สร้างอาชีพ และขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะสาขาอาหาร ที่ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของการปรุงและรสชาติอาหารเท่านั้น แต่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมประจำชาติ ดังนั้น การที่จะผลักดันและพัฒนาผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารให้มีศักยภาพอย่างยั่งยืนต้องอาศัยการสร้างวัฒนธรรมไทย (Thai Culture) และกลิ่นอายความเป็นไทยเพื่อรังสรรค์อาหารให้เกิดมูลค่าเพิ่ม สร้างมิติมุมมองวัฒนธรรม และสื่อถึงมนต์เสน่ห์ความเป็นไทย นอกจากนี้ ยังต้องเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมสาขาอื่น ๆ อาทิ การท่องเที่ยวโดยใช้อาหารเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อุตสาหกรรมบันเทิงและคอนเทนต์โดยการถ่ายทอดเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับอาหารไทยไปสู่สื่อระดับโลกผ่านภาพยนต์ รายการเกี่ยวกับอาหาร หรือแพลตฟอร์มดิจิทัลต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการสร้างโอกาสทางธุรกิจและเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ภายใต้การนำของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ฯ สาขาอาหาร เดินหน้าผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อสร้างเชฟมืออาชีพจากทุกชุมชนทั่วประเทศและยกระดับอุตสาหกรรมอาหารไทยผ่านแผนงานโครงการต่าง ๆ ซึ่งการจัดงานในวันนี้ เป็นกิจกรรมภายใต้โครงการยกระดับหนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการในการขยายตลาดส่งออกสู่สากล การนำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาธุรกิจอาหาร และสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ โดยมีผู้เข้าร่วมงาน จำนวน 100 คน ประกอบด้วย ผู้ผลิตอาหารและวัตถุดิบ เชฟผู้พัฒนาเมนู ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหาร นักสร้างสรรค์คอนเทนต์ ผู้ส่งออก และหน่วยงานด้านนโยบายและส่งเสริมของภาครัฐ ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าว ดีพร้อม ได้สร้างครูผู้สอน (Train the Trainer) จำนวน 325 คน สร้างเชฟอาหารไทยมืออาชีพ (Master Thai Chef Program) จำนวนกว่า 1,300 คน ตลอดจนได้เข้ารับการทดสอบความรู้กับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และกรมอนามัย จนได้ใบรับรองความสามารถ อีกทั้ง ยังได้รับการส่งเสริมด้านตลาดด้วยการให้ความรู้เรื่องการสร้างคอนเทนต์ผ่านอินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียง การเพิ่มองค์ความรู้และทักษะ (Upskill) ด้วยการนำ AI ยกระดับซอฟต์พาวเวอร์ไทยในยุคดิจิทัล อีกด้วย นอกจากนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ดีพร้อม ได้เดินหน้าอย่างต่อเนื่องในการผลักดันนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ สาขาอาหาร ภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ผ่าน กลยุทธ์ 4 ให้ 1 ปฏิรูป ที่มุ่งส่งเสริม พัฒนา และยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการในทุก ๆ ด้านอย่างตรงจุด ด้วยการสร้างเชฟอาหารไทยมืออาชีพและเชฟอาหารไทยร่วมสมัยทั่วประเทศ จำนวน 17,000 คน ผ่าน 3 แนวทาง ได้แก่ 1. สร้างสรรค์และต่อยอดโดยการใช้ความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจต่อยอดต้นทุนวัฒนธรรมและภูมิปัญญาสู่วัฒนธรรมสร้างสรรค์ 2. โน้มน้าวโดยการจูงใจให้เปลี่ยนแปลงทางด้านความคิด หรือพฤติกรรมความชอบให้หันมาสนใจอาหารไทยผ่านการเล่าเรื่องราวต่าง ๆ (Storytelling ) ที่มีคุณค่า และ 3. เผยแพร่ผ่านเครื่องมือต่าง ๆ เช่น Influencer ซีรีส์ ละครย้อนยุค เป็นต้น คาดว่าจะทำให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ นำมาสู่การขยายโอกาสทางธุรกิจให้แก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ส่งเสริมให้ Soft Power อาหารไทย ก้าวไปสู่ระดับโลกต่อไป
18 มี.ค. 2025
"ดีพร้อม" หารือ "CPRAM" ชวนจับมือ “บางจาก” ส่งเสริมการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน อย่างเป็นรูปธรรม ตามนโยบาย "ปฏิรูปอุตสาหกรรมไทยสู่เศรษฐกิจยุคใหม่" ของ รวอ. เอกนัฏ
กรุงเทพฯ 12 มีนาคม 2568 – นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับ ผู้แทน บริษัท ซีพีแรม จำกัด เพื่อกำหนดแนวทางการส่งเสริมการผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) พร้อมด้วย นายสุรพล ปลื้มใจ และ นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) การหารือในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อหาแนวทางบูรณาการร่วมกันระหว่างดีพร้อมและภาคเอกชน ในการส่งเสริมการผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) โดยใช้วัตถุดิบภายในประเทศที่ได้รับการรับรองและมีเทคโนโลยีการผลิตตามมาตรฐานที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) กำหนด อาทิ น้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว (Used Cooking Oil : UCO) กรดน้ำมันปาล์ม (PFAD) และกากน้ำตาล (Molasses) เพื่อส่งเสริมมาตรการสนับสนุนการใช้ SAF ของ ICAO ที่ตั้งเป้าหมาย Net Zero Emission ภายในปี 2050 รวมถึงรองรับอุตสาหกรรมการบินในเชิงพาณิชย์ และสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการขนส่งทางอากาศ เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG ของรัฐบาล ซึ่งแนวทางความร่วมมือในครั้งนี้ มุ่งหวังว่าจะก่อให้เกิดการสร้างกลไกกระบวนการบริหารจัดการซัพพลายเชนในการนำ UCO ไปสร้างมูลค่าเป็น SAF รวมถึงสิทธิประโยชน์ในการสนับสนุนอื่น ๆ อาทิ แนวทางการคำนวณคาร์บอนเครดิตรวมถึงราคา UCO ที่เหมาะสมเพื่อส่งเสริมการใช้ SAF อย่างเป็นรูปธรรม การลดผลกระทบจากการนำน้ำมันปรุงอาหารมาใช้ซ้ำ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้บริโภค รวมทั้งยังเป็นการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่แสดงถึงรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา “ดีพร้อม” มีการหารือกับหน่วยงานภายในกระทรวงอุตสาหกรรมในการศึกษาปริมาณ Demand – Supply ของ SAF โดยจะเน้นการเชื่อมโยงเครือข่ายวัตถุดิบผลิต SAF ในส่วนของน้ำมันพืชที่ผ่านการใช้งานแล้ว ทั้งจากโรงงานอุตสาหกรรม และ SMEs อีกทั้งมีแผนที่จะนำร่องความร่วมมือกับอุตสาหกรรมรายใหญ่ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของ Supply โดยจะเป็นต้นแบบและสร้างการรับรู้ให้ประชาชนในวงกว้าง สอดคล้องกับแผนพลังงานชาติ และตอบโจทย์นโยบาย "ปฏิรูปอุตสาหกรรมไทย สู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส" ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เพื่อให้อุตสาหกรรมการบินของประเทศสามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว
18 มี.ค. 2025