Humming Three แบรนด์์แฟชั่่นสไตล์์ญี่่ปุ่่น ชููคอนเซ็็ปต์์ “Wrap Thai” คว้้ารางวััลชนะเลิิศ Thai Designer Academy 2020
จากโจทย์การประกวดบนเวที Thai Designer Academy 2020 ภายใต้แนวคิด “Thainess Story for Ready to Wear” แบรนด์ Humming Three ได้นำวิธีการ ห่อขนมไทยที่่มีการกลัด การพับ การพัน มาประยุกต์กับการ ออกแบบเสื้อผ้า ผ่านแนวคิด “Wrap Thai” แสดงโชว์ผลงาน บนเวทีและคว้ารางวัลชนะเลิศ ด้วยการถ่ายทอดออกมาได้ อย่างน่าสนใจ แปลกใหม่่ มีเอกลักษณ์ สามารถผสมผสาน วิถีความเป็นไทยได้อย่างลงตัว และที่่สำคัญสามารถนำ ไป สวมใส่ได้ในชีวิตจริง คุณฉัตรียา ปาละกูล หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ Humming Three กล่าวถึงจุดเริ่มต้นก่อนเข้ามาประกวดว่า หลังเรียนจบ ด้านการออกแบบได้ร่วมทุนกับเพื่อน คุณปวีณา นามประเสริฐ สร้างแบรนด์ Humming Three เพื่อจำ หน่ายเสื้อผ้าแฟชั่น สไตล์ญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ด้วยความชอบส่วนตัวและเห็นโอกาส ทางธุรกิจของแฟชั่นสไตล์ ดังกล่าวว่ายังไม่มีตลาดของเสื้อผ้า แนวนี้้มากนัก จึงทดลองตลาดจำหน่ายผ่านช่องทางอินสตราแกรม ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่่ดีซึ่งเอกลักษณ์เสื้อผ้า แฟชั่นสไตล์ญี่ปุ่น จะเน้นโทนสีธรรมชาติใช้เนื้อผ้าที่่เรียบง่าย คือผ้าลินินและผ้าฝ้าย ทำให้สวมใส่สบาย เหมาะกับสภาพอากาศของประเทศไทย จึงตอบโจทย์กลุ่ม Niche Market ที่ชื่นชอบสไตล์ดังกล่าว เมื่อดำเนินการมาได้กว่า 7 ปี จึงสร้างความท้าทาย ให้กับแบรนด์ด้วยการเข้าประกวด Thai Designer Academy 2020 ภายใต้กิจกรรมเสริมสร้างศักยภาพนักออกแบบผลิตภัณฑ์ สู่่สากลในรููปแบบ Academy กับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เพียงเพื่อต้องการนำความรู้และประสบการณ์ใหม่ ๆ มาพัฒนาแบรนด์เสื้อผ้าของตน โดยไม่ได้คาดหวังถึงการได้รับรางวัลแต่อย่างใด หลังจากได้รับรางวัลชนะเลิศ ส่งผลให้แบรนด์ Humming Three เติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยการส่งเสริมของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมในด้านการตลาดทำให้แบรนด์มีโอกาส เปิดตัวสู่สายตาชาวต่างชาติมากขึ้น นอกจากได้อัปเกรด แบรนด์แล้ว ทิศทางยอดขายก็เป็นไปในทางที่่ดีขึ้น “การเข้าร่วมกิจกรรมนี้้มีประโยชน์กับแบรนด์อย่างมาก เราได้ความรู้จากวิทยากรทั้งในเรื่องการดีไซน์ที่่ช่วยดึงอัตลักษณ์และจุดเด่นของแบรนด์ให้ออกมาชัดเจน ทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ยังส่งเสริมการตลาดทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยช่วยวางทิศทางการขาย และการนำเสนอแบรนด์ให้ตรง กลุ่มเป้าหมายมากขึ้น นอกจากนี้้ยังได้ร่วมเจรจาธุรกิจและมีพันธมิตรมาช่วยสนับสนุน และพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วย ที่่สำคัญ หลังจากได้รับรางวัลชนะเลิศทางแบรนด์มีโอกาสเปิดตลาดมากขึ้นผ่านการแสดงสินค้าในงานต่าง ๆ เช่น การนำ คอลเล็คชั่นไปร่วมงาน Fashion World ณ กรุุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ทำให้สินค้าแพร่หลายในระดับนานาชาติเป็นโอกาสและประสบการณ์ที่่ดีมาก” ปัจจุุบันแบรนด์ Humming Three ยังคงพัฒนา ด้านการออกแบบที่่เน้นความเรียบง่ายแบบมินิมอลแต่ยังคงเอกลักษณ์ในสไตล์ญี่ปุ่นผสมผสานกับความเป็นไทยมากขึ้น มีกลุ่มลูกค้าชัดเจนขึ้น คือวัยทำงานอายุุ 25-45 ปีซึ่งมีกำลังซื้อทำให้จำหน่ายได้ง่ายขึ้น และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายจากอินสตราแกรม เฟสบุ๊ก เป็นเว็บไซต์ https://th.pinkoi.com/ ซึ่งเป็นเว็บไซต์ซื้อขายงานดีไซน์ชั้นนำของเอเชีย โดยมีตลาดต่างประเทศอย่างฮ่องกงและไต้หวันให้ความสนใจเป็นอย่างมาก คุณฉัตรียา ปาละกูล Humming Three : 11/1 หมู่ที่่ 2 ตำบลมหาสวัสดิ์์ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุุรี 11130 : 09 1429 5929 : https://www.facebook.com/hummingthree/ , http://www.pinkoi.com/store/hummingthree ที่มา : รายงานประจำปี 2563 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
30 เม.ย. 2564
จากยางรองส้นเท้าสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ต่อยอดสู่ “รองเท้าแตะเพื่อสุขภาพจากยางพารา”
จากผลงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ได้จริงกับโปรเจกต์ยางรองส้นเท้าสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยกระจายแรงในการรับน้ำหนักและลดปัญหาแผลกดทับที่ส้นเท้า โดยหลังจากการผลิตและจำหน่ายออกสู่ตลาด ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ป่วยเบาหวาน คุณธีระวัฒน์ เพชรดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท รับเบอร์ อินโนเทค จำกัด จึงมีแนวคิดที่จะต่อยอดธุรกิจจาก ยางรองส้นเท้า พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อความหลากหลายและเพื่อขยายตลาดให้กว้างขึ้น คุณธีระวัฒน์ จึงสนใจเข้าร่วมโครงการเพิ่มมูลค่ายางและผลิตภัณฑ์ยาง ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เพราะมองว่าเป็นโครงการที่ดี ให้การสนับสนุนทางด้านของยางพาราและเห็นความสำคัญของการแปรรูปยางพารา ซึ่งหลังจากเข้าร่วมโครงการ ได้รับความรู้และคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ ทำให้รู้ว่าจะพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ไปในทิศทางใด โดยมีผู้เชี่ยวชาญมาให้คำแนะนำในหลาย ๆ เรื่อง เช่น การตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์รวมถึงการออกแบบดีไซน์ ภายหลังจึงได้นำความรู้ที่ได้มาต่อยอด จากยางรองส้นเท้าสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน พัฒนาเป็นรองเท้าแตะเพื่อสุขภาพจากยางพารา ซึ่งเหมาะสำหรับคนทั่วไป สามารถสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน ด้วยวัสดุที่นำมาใช้ในการผลิตเป็นยางธรรมชาติจึงมีความยืดหยุ่นสูง ทนทาน และนุ่มสบายเท้า นอกจากนี้พื้นผิวรองเท้ายังถูกออกแบบให้มีลักษณะเป็นปุ่มสี่เหลี่ยมเพื่อกระจายการรับน้ำหนักและช่วยนวดฝ่าเท้าไปด้วยในตัวขณะเดิน โดยปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการทดลองตลาด และสำรวจความพึงพอใจ ก่อนจะลุยตลาดวางจำหน่ายที่ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและร้านขายของฝาก ของที่ระลึก บริษัท รับเบอร์ อินโนเทค จำกัด Rubber City หมู่ 4 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110 โทรศัพท์ : 09 0224 0999 www.heelsoother.com ที่มา : รายงานประจำปี 2560 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
03 พ.ค. 2560
“Mocktail’s” รองเท้าสตรีทำมือ สวมใส่สบาย เข้าใจเท้า
จากความหลงใหลในรองเท้าทำมือ และนิสัยส่วนตัวที่ชอบหาอะไรทำในเวลาว่างตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยจนกระทั่งทำงานประจำ โดยได้ลองรับรองเท้าไปขายที่ตลาดนัดสวนจตุจักร ปรากฏว่าได้รับผลตอบที่ดีจากลูกค้ามาก คุณวริษา เลิศชัยวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พามาบายวริษา จำกัด จึงตัดสินใจลาออกจากการเป็นพนักงานประจำมาสร้างธุรกิจของตัวเอง เพื่อมาปั้นแบรนด์รองเท้า “Mocktail’s” ชูจุดเด่นเป็นรองเท้าสตรีทำมือที่เน้นสวมใส่สบาย จำหน่ายผ่านช่องทางหลักในห้างสรรพสินค้า Facebook และ Instagram แต่ด้วยความที่ผลิตภัณฑ์มีลักษณะเรียบง่าย ไม่ค่อยมีจุดเด่นมากนัก จึงมองหาที่ปรึกษาเข้ามาเติมจุดอ่อนที่มีอยู่ โดยเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์และต่อยอดตราสินค้าสู่อาเซียน ภายใต้โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแฟชั่นไทย ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ทำให้ได้รับโอกาสในการพัฒนาสินค้าของตัวเองให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมถึงปรับปรุงรูปแบบและใช้วัสดุที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เช่น พื้นรองเท้าที่มีลวดลายเฉพาะตัว ส้นรองเท้าผลิตจากวัสดุเรซิ่น และได้โอกาสไปออกตลาดสินค้าที่ต่างประเทศ เช่น แคนาดา ฮ่องกง ญี่ปุ่น หลังจากผลิตภัณฑ์ได้รับการพัฒนาและออกสู่ตลาด ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นทั้งในตลาดไทยและตลาดต่างประเทศ ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นจากเดิม 5% คุณวริษา เลิศชัยวรกุล บริษัท พามาบายวริษา จำกัด 106 ซอยจันทน์ 31 ถนนจันทน์ แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 โทรศัพท์ : 09 0659 5641 www.mocktailsshoes.com ที่มา : รายงานประจำปี 2559 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
31 ม.ค. 2559
บริษัท แอ๊ดด้า (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ก้าวสู่ผู้นำรองเท้าลำลองในอาเซียน
บริษัท แอ๊ดด้า (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นจากการเป็นผู้รับจ้างผลิตรองเท้าส่งตลาดยุโรปอันดับหนึ่งของไทยจนเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ผู้บริหารจึงได้ตัดสินใจสร้างแบรนด์รองเท้า ADDA ของตัวเองขึ้น โดยมีจุดแข็งที่ความได้เปรียบในเรื่องคุณภาพและการออกแบบเป็นหลัก ผลิตรองเท้าตอบโจทย์เมืองร้อน จนส่งขายทั่วไทยและส่งออกไปยังตลาดเอเชยี โดยมีตลาดหลักอยู่ที่ประเทศอินเดีย ไต้หวัน รวมถึงอาเซียน แต่เดิมผลิตภัณฑ์รองเท้าของ ADDA เป็นรองเท้าแตะลำลองที่เน้นสวมใส่สบาย ราคาถูก แต่ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง คุณวรกฤษณ์ ทองเต่าหมก ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด จึงให้ความสำคัญกับการส่งบุคลากรเข้าร่วมอบรมโครงการต่าง ๆ ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยเฉพาะด้านการออกแบบ แรงบันดาลใจที่ทีมงานแอ๊ดด้าได้จากการเข้าร่วมอบรม คือจุดประกายไอเดียการออกแบบรองเท้า ADDA ที่ปรับโฉมรูปลักษณ์ใหม่ให้โดนใจคนยุคใหม่อย่างต่อเนื่อง จนถึงรุ่นล่าสุดอย่าง ADDA Play และ ADDA Jump ที่พัฒนามาจากรองเท้าลำลองสีพื้นเรียบไม่มีสายรัดข้อ ผนวกกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่นิยมสวมใส่เครื่องแต่งกายที่เข้าชุดกันทั้งเสื้อผ้าและรองเท้า รวมถึงหยิบเทรนด์สีสดที่ไม่เคยทำมาก่อนมาลองทำ “การเข้าร่วมอบรมกับทางกรมฯ ช่วยพัฒนาคนของเราให้เริ่มกล้าคิดต่าง หลุดจากกรอบการดีไซน์รองเท้าลำลองแบบเดิม ๆ ทำให้ผลิตภัณฑ์มีความแตกต่างจากคู่แข่งมาก และสร้างยอดขายให้เติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี และแบรนด์รองเท้าไทยอย่าง ADDA เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในไทยและประเทศอาเซียน” ทุกวันนี้บริษัทแอ๊ดด้ายังคงมุ่งมั่นแข่งขันกับตนเองอย่างไม่หยุดนิ่ง ทั้งด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และด้านการตลาด เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ว่า “บริษัทแอ๊ดด้าจะต้องเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์รองเท้าลำลองในอาเซียน” คุณวรกฤษณ์ ทองเต่าหมก ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท แอ๊ดด้า (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) 45 ซ.พระยามนธาตุราชศรีพิจิตร์ แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯ โทรศัพท์ : 0 2416 0026 โทรสาร : 0 2899 8589 เว็บไซต์ : www.adda.co.th ที่มา : หนังสือ 72 ปี แห่งการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมสู่ความยั่งยืน
31 ธ.ค. 2557