“อธิบดีณัฏฐิญา” ดัน 2 โปรเจกต์ดีพร้อม “สนุก RICE PLUS + สนุก Beef Valley” ผ่านเวทีโต๊ะประชุมบูรณาการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 ยกระดับเกษตรสู่เกษตรมูลค่าสูง
กรุงเทพฯ 17 เมษายน 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เข้าร่วมการประชุมบูรณาการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 หรือ กลุ่มจังหวัด “สนุก” (จังหวัดสกลนคร นครพนม และมุกดาหาร) โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้เกียรติเป็นประธาน ร่วมด้วย นายนายกฤศ จันทร์สุวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุรพล ปลื้มใจ และนายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมดังกล่าว ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล
การประชุมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการผลักดันแผนพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 โดยเน้นการบูรณาการแผนงาน โครงการ และทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลในระดับพื้นที่ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและความต้องการของประชาชน ตลอดจนมุ่งเน้นการส่งเสริมศักยภาพของพื้นที่ในด้านต่าง ๆ เพื่อให้กลุ่มจังหวัดดังกล่าวสามารถเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนในระยะยาว
โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม มีการจัดทำรายละเอียดประเด็นข้อเสนอให้กับทางจังหวัดนครพนมเกี่ยวกับการยกระดับเกษตรสู่เกษตรมูลค่าสูงให้กับกลุ่มสนุก ซึ่งประกอบด้วย จังหวัดสกลนคร นครพนม และมุกดาหาร ผ่าน 2 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการสร้างเศรษฐกิจกลุ่มสนุก ด้วยอุตสาหกรรมแปรรูปข้าวมูลค่าสูง "SNUK RICE PLUS" (SNUK RICE+) เพื่อพลิกโฉมอุตสาหกรรมข้าวกลุ่มจังหวัดฯ สู่อุตสาหกรรมข้าวมูลค่าสูงและมีความยั่งยืน รวมถึงสร้างแบรนด์ "สนุก RICE+" ให้เป็นที่รู้จักในตลาด พร้อมขยายช่องทางการจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ อันจะเป็นการเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับพื้นที่ และ 2. โครงการยกระดับอุตสาหกรรมแปรรูปโคเนื้อกลุ่มจังหวัดสนุก “สนุก Beef Valley” มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมแปรรูปโคเนื้อให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานสากล สร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์โคเนื้อแปรรูปให้มีชื่อเสียงในตลาดอาเซียน นอกจากนี้ การดำเนินงานทั้ง 2 โครงการ จะมุ่งเน้นการพัฒนาปรับปรุงกระบวนการผลิต เพื่อลดของเสีย ลดต้นทุน และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าทางการเกษตรได้สูงถึงร้อยละ 10