ประเทศญี่ปุ่นหนึ่งในผู้นำของโลกในเรื่องความสมบูรณ์แบบของระบบขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานสาธารณูปโภค ญี่ปุ่นมีวิธีการจัดการอย่างไรกับระบบขนส่ง ถนน อุโมงค์ สะพาน รถไฟ ฯลฯ ที่มีการใช้งานมากว่า 50 ปีแล้ว และยังต้องมีความคงทน ฟื้นฟูได้รวดเร็ว และสามารถรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ญี่ปุ่นต้องประสบครั้งแล้วครั้งเล่า  ปัจจุบัน ร้อยละ 11 ของระบบขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานฯ ในญี่ปุ่นมีอายุใช้งานมากกว่า 50 ปี  และภายในปีค.ศ. 2027 ระบบขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานฯ กว่า 1 ใน 3 จะมีอายุมากกว่า 50 ปี รัฐบาลญี่ปุ่นและบริษัทก่อสร้างและบริหารจัดการระบบขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานฯ จึงให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับเทคโนโลยีและโซลูชั่นการบริหารจัดการและบำรุงรักษา โดยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยี อาทิ เซ็นเซอร์ ปัญญาประดิษฐ์ ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ IoT ฯลฯ มาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพ สามารถประเมินและคาดการณ์เพื่อการป้องกันความเสียงต่างๆ

สำหรับประเทศญี่ปุ่น คำว่า “Maintenance” ไม่ได้หมายถึง การซ่อม หรือการซ่อมบำรุง แต่อย่างเดียว แต่ยังเป็นการนำเอานวัตกรรมและเทคโนโลยี อาทิ ปัญญาประดิษฐ์ IoT เซ็นเซอร์ หุ่นยนต์ ฯลฯ มาใช้ในระบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และป้องกันความเสียงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น เป็นผลให้สามารถลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล และแน่นอนเพิ่มกำไรให้กับองค์กร

นอกเหนือจากเทคโนโลยีและโซลูชั่นการบริหารจัดการ การบำรุงรักษาแล้ว สำหรับงานก่อสร้างระบบขนส่งและโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งส่วนขยายโครงข่ายและส่วนสร้างขึ้นใหม่ รัฐบาลญี่ปุ่นมีนโยบายสนับสนุนการพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เรียกว่า “i-Construction” ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีการก่อสร้างล้ำสมัย อย่าง IT/IoT มาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ประสิทธิผลและลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ดังนั้น การบำรุงรักษา (maintenance) และการฟื้นฟูอย่างยั่งยืน (resilience) จึงเชื่อมโยงโดยตรงกับการเพิ่มมูลค่าทรัพย์สิน โครงสร้างพื้นฐานสาธารณูปโภค จึงเป็นเหตุผลที่ภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นให้การสนับสนุนการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ๆในโครงสร้างพื้นฐานสาธารณูปโภคอย่างเต็มที่

ประเทศไทยกับโครงการพัฒนาระบบขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานฯ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น โครงการระเบียบเศรษฐกิจตะวันออก (EEC) รถไฟความเร็วสูง ส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าในเมือง การบริหารจัดการและบำรุงรักษา ถนน ถนนทางหลวง สะพาน อุโมงค์ และอื่นๆอีกมากมาย จำเป็นต้องมีแผนการบริหารจัดการ การบำรุงรักษา และการยกระดับการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ

งาน “Maintenance and Resilience Asia 2019”  จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Smart Manufacturing & Smart Infrastructure  กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-4 ตุลาคม 2562 นี้ที่ไบเทค บางนา จัดโดย Japan Management Association ร่วมกับบริษัท เอ็กซโปซิส งานได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจาก กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงคมนาคม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) องค์กรส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) และหอการค้าญี่ปุ่น (JCC) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอเทคโนโลยี นวัตกรรม สำหรับอุตสาหกรรมการผลิต โครงสร้างพื้นฐานสาธารณูปโภค และการบำรุงรักษาเพื่อการพัฒนาให้มีความล้ำสมัยและยั่งยืน ให้กับผู้ประกอบการ วิศวกร และผู้สนใจเข้าร่วมงานจากประเทศไทยและอาเซียน สอดคล้องตามนโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาลที่ผลักดันให้ทุกภาคส่วนปรับตัวให้เข้ากับกระแสการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี เพื่อให้ทันต่อการแข่งขันในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับโลก

ภายในงานจะมีการจัดแสดงเทคโนโลยีล้ำสมัย  ที่นำใช้ในงานโครงสร้างพื้นฐานสาธารณูปโภคและกระบวนการผลิต นวัตกรรมระบบบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐาน

การประชุมสัมมนา ตลอด 3 วันการจัดงาน จะมีการบรรยายและการนำเสนอกรณีศึกษาต่างๆ และมีการแปลภาษา 3 ภาษา คือ ไทย ญี่ปุ่นและอังกฤษ ผู้สนใจเข้าร่วมต้องลงทะเบียนออนไลน์ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายการเข้าร่วมประชุมแต่อย่างใด

เข้าร่วมประชุมสัมมนา และพบเทคโนโลยีล้ำสมัย ที่งาน Maintenance & Resilience Asia 2019 วันที่ 2-4 ตุลาคม นี้ ที่ไบเทค บางนา 

สนใจข้อมูลเพิ่มเติม https://asia.maintenance-resilience.com   

อีเมล amit.r@exposis.co.th โทร 02 559 0856 – 8