หมวดหมู่
นรม. มอบ 79 รางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2563 พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยอย่างเต็มสูบ
กรุงเทพฯ 14 ธันวาคม 2563 - พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2563 (The Prime Minister’s Industry Award 2020) โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวรายงาน ร่วมด้วย นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวสุชดา แทนทรัพย์ โฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม นายกอบชัย สังสิทธิ์สวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะผู้บริหารและข้าราชการกระทรวงอุตสาหกรรม สื่อมวลชน และผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมกว่า 350 คน และในโอกาสนี้ นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายภาสกร ชัยรัตน์ นายใบน้อย สุวรรณชาตรี และนายเจตนิพิฐ รอดภัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ผู้บริหารและข้าราชการกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.)เข้าร่วมในพิธีดังกล่าว ณ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต พิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม (The Prime Minister’s Industry Award ) จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 เป็นต้นมา จนถึงวันนี้นับเป็นปีที่ 28 โดยรางวัลอุตสาหกรรมนี้ เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อสร้างขวัญกำลังใจและประกาศเกียรติคุณให้กับผู้ประกอบการที่มีความคิดริเริ่ม มีความวิริยะอุตสาหะในการสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ โดยมีเกณฑ์การพิจารณาที่เข้มข้นในการคัดเลือกผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลในแต่ละปี เพื่อให้สถานประกอบการพัฒนาธุรกิจ บุคลากร สร้างทักษะ ปรับปรุง และพัฒนาองค์ความรู้ด้านต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบันและอนาคต สำหรับในปีนี้มีสถานประกอบการที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกและได้รับรางวัล รวมจำนวนทั้งสิ้น 79 รางวัล ประกอบด้วย 3 กลุ่ม ดังนี้ 1. รางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ บริษัท เอฟแอนด์เอ็น แดรี่ส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ภายใต้ตราสินค้า อาทิ คาร์เนชัน ทีพอท แมกโนเลีย ตราหมี นอกจากนี้ ยังเป็นสถานประกอบการที่ได้รับการส่งเสริม พัฒนา และสนับสนุนจาก กสอ. ผ่านกิจกรรม/โครงการต่าง ๆ ทั้งนี้ รางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม เป็นการตัดสินจากสถานประกอบที่เคยได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ประเภทรางวัล 2. รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น แบ่งเป็น 8 ประเภท จำนวน 48 รางวัล และ 3. รางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น แบ่งเป็น 4 ประเภท จำนวน 30 รางวัล จากจำนวนผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกทั้งสิ้น 260 ราย นอกจากนี้ ยังได้มีการมอบรางวัลชมเชย ให้กับผู้ประกอบการในส่วนของรางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น จำนวน 5 รางวัล เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบการในการปรับปรุงพัฒนาธุรกิจต่อไป รางวัลอุตสาหกรรมทุกประเภท ล้วนเป็นส่วนสำคัญในการสร้างรากฐานภาคอุตสาหกรรมไทยให้มีความแข็งแกร่ง พัฒนาผู้ประกอบการให้มีศักยภาพสามารถแข่งขันได้ในเวทีการค้าโลก และสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมและสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวหน้า พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นในสินค้าอุตสาหกรรมไทยให้เป็นที่ยอมรับในตลาดสากล ตลอดจนพัฒนาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป ### PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว
15 ธ.ค. 2563
กิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฎิบัติการ หลักสูตร "สร้างนักออกแบบสิ่งทอรุ่นใหม่" Young : Textile Design ภายใต้โครงการยกระดับผ้าทอมืออัตลักษณ์อีสานสู่สากล
ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 เปิดรับสมัครผู้ประกอบการ SMEs, OTOP และ วิสาหกิจชุมชน ผู้ผลิตผ้าไหมและผ้าฝ้ายทอมือ แปรรูปเป็นสินค้าประเภท ผ้าและเครื่องแต่งกาย, ของใช้/ของฝาก/ของที่ระลึก และอุตสาหกรรมแฟชั่น นักศึกษาเพิ่งจบใหม่, นักออกแบบอิสระ, ทายาทธุรกิจ และผู้สนใจทั่วไป เข้าร่วมกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฎิบัติการ หลักสูตร "สร้างนักออกแบบสิ่งทอรุ่นใหม่" Young : Textile Design ภายใต้โครงการยกระดับผ้าทอมืออัตลักษณ์อีสานสู่สากล ครบทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ โดยวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญ ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ ระหว่างวันที่ 21-25 ธันวาคม 2563 โรงแรมเดอะรีเจ้นท์ อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี เปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 17 ธันวาคม 2563 ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตร หมายเหตุ ไม่มีค่าพาหนะเดินทางและเบี้ยเลี้ยง
14 ธ.ค. 2563
งานสัมมนาสรุปผลการดำเนินโครงการระบบข้อมูลเพื่อรองรับการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์ข้อมูลขนาดใหญ่
โรงแรมอีสติน มักกะสัน กรุงเทพฯ วันที่ 14 ธันวาคม 2563 เวลา 09.00 น. นายใบน้อย สุวรรณชาตรี รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดงานสัมมนาสรุปผลการดำเนินโครงการระบบข้อมูลเพื่อรองรับการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์ข้อมูลขนาดใหญ่ โดยมี นางเกษราภรณ์ โกวิทลวากุล ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวรายงาน ร่วมด้วยคณะเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ณ ห้องประชุมอีสติน แกรนด์บอลรูม โรงแรมอีสติน มักกะสัน กรุงเทพฯ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กำหนดกิจกรรมสัมมนาสรุปผลการดำเนินโครงการฯ เพื่อเผยแพร่ผลการดำเนินงาน แนะนำการใช้งานระบบ DIP360 ให้ผู้เกี่ยวข้องที่เข้าร่วมสัมมนาได้รับรู้และเข้าใจถึงการนำข้อมูลในระบบไปใช้ประโยชน์ต่อการปฏิบัติงาน
14 ธ.ค. 2563
“อธิบดีณัฐพล” ร่วมยินดีครบรอบ 48 ปี กนอ.
กรุงเทพฯ 14 ธันวาคม 2563 - นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา เลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ลสล.กสอ.) ร่วมแสดงความยินดีและบริจาคเงินสมทบทุน เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ กับ”ศิริราชมูลนิธิ” โรงพยาบาลศิริราช เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 48 ปี การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) โดยมี นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และผู้บริหาร กนอ. เป็นผู้รับมอบในครั้งนี้ ณ อาคาร กนอ. ### PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว
14 ธ.ค. 2563
กสอ. จับคู่ธุรกิจสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการ หวังเชื่อมโยงแหล่งเงินทุนต่อยอดทางธุรกิจ
กรุงเทพ 8 ธันวาคม 2563 - นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติกล่าวปาฐกถาในการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ "การเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการใหม่เข้าถึงแหล่งเงินทุนและตลาดที่เหมาะสม" พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) และกลุ่มผู้ประกอบการ โดยมี นายภาสกร ชัยรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาฯ ดังกล่าว ณ โรงแรมแมนดาริน สามย่าน การสัมมนาฯ ดังกล่าว กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) จัดขึ้นเพื่อให้กลุ่มผู้ประกอบการในเครือข่าย DIP SMEs Network วิสาหกิจเริ่มต้นหรือสตาร์ทอัพ และเอสเอ็มอี ที่มีความหลากหลายทางธุรกิจ อาทิ บรรจุภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ อาหารเครื่องดื่ม สินค้าด้านนวัตกรรม เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นภายใต้เครือข่ายธุรกิจ และการสร้างยอดขายให้ประสบความสำเร็จ รวมถึงการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ และข้อมูลด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม เพื่อช่วยให้เกิดการเชื่อมโยงและจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ซึ่งมีผู้ประกอบการเข้าร่วมสัมมนากว่า 70 ราย เกิดมูลค่าการซื้อ-ขายประมาณ 150 ล้านบาท ส่งผลให้เกิดการขยายฐานธุรกิจและเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศต่อไป ### PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว
09 ธ.ค. 2563
ประกาศรายชื่อสถานประกอบการที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรมปั้นอาหารไทยปรุงให้ก้าวไกลสู่ตลาดดิจิทัลอย่างเป็นมืออาชีพ
ประกาศรายชื่อสถานประกอบการที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วม “กิจกรรมปั้นอาหารไทยปรุงให้ก้าวไกลสู่ตลาดดิจิทัลอย่างเป็นมืออาชีพ (เฟสแรก)” ภายใต้โครงการพัฒนาและยกระดับผู้ประกอบการสู่ความเป็นมืออาชีพ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 บริษัท ซีเอส ครีเอทีฟ ฟูดส์ จำกัด (จังหวัดกรุงเทพมหานคร) บริษัท อมินตา คอสโม จำกัด (จังหวัดกรุงเทพมหานคร) บริษัท เพิ่มทรัพย์บุญทวี จำกัด (จังหวัดกรุงเทพมหานคร) บริษัท ราชาเวิลด์ฟู้ดส์ จำกัด (จังหวัดกรุงเทพมหานคร) บริษัท เจเจเอสกรุ๊ป จำกัด (จังหวัดกรุงเทพมหานคร) บริษัท รอยัลเปเปอร์ จำกัด (จังหวัดกรุงเทพมหานคร) ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไทยโฟโต้ แอนด์ พริ้นท์ (จังหวัดกรุงเทพมหานคร) ห้างหุ้นส่วนจำกัด ป้อนคารัก (จังหวัดสมุทรปราการ) บริษัท โถมด้วยรัก ฟู๊ด จำกัด (จังหวัดปทุมธานี) บริษัท ไทยเจส จำกัด (จังหวัดปทุมธานี) ประกาศรายชื่อสถานประกอบการที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรม
08 ธ.ค. 2563
ขอเรียนเชิญสัมมนาออนไลน์ Thailand’s E-Logistics Policy & Emerging Trends : Journey to the Future
ขอเรียนเชิญสัมมนาออนไลน์ Series Webinars ฟรี “Thailand’s E-Logistics Policy & Emerging Trends : Journey to the Future” วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม 2563 เวลา 10:00 – 12:00 น. Session 4 Smart Warehouse & Inventory Management หัวข้อในการสัมมนา Robotics in Warehouse & Inventory by Mr. Hiratomo Miyata (Founder & CEO Ground Inc.) Challenges in Future Warehouse & Inventory Management by Mr. Tanate Piriyothinkul (Director & Chief Commercial Officer, JWD InfoLogistics PLC) Cold Chain Technology by Mr. Tanate Piriyothinkul (Director & Chief Commercial Officer, JWD InfoLogistics PLC) ขอความกรุณาอัพเดท Zoom เป็น Version ใหม่ล่าสุดก่อนรับชมเพื่อความต่อเนื่องในการรับชม จัดโดย New Energy and Industrial Technology Development Organization (NEDO) กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIP) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (F.T.I.) สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น (TNI)
07 ธ.ค. 2563
โครงการฝึกอบรมเชิงปฎิบัติการ กิจกรรมสร้างเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ STREET FOOD
ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 จัดต่อเนื่อง งานดี เนื้อหาแน่น Show Case เพิ่มพลัง..."สร้างเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ" ใครที่กำลังวางแผนทำ Street Food มาทำความรู้จักกัน การคิดอย่างสร้างสรรค์และมีนวัตกรรม ความรู้ในการบริหารจัดการ การตลาดและสื่อสังคมออนไลน์ จากทีมวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ มีทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ 21-24 ธันวาคม 2563 นี้ ณ โรงแรมบ้านสวนคุณตา กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม คุณเก่ง 0862461388 คุณหนึ่ง 0854953432
07 ธ.ค. 2563
คิดเห็นแชร์ : ปัญหา COVID-19 ยังไม่ซา ฝุ่นพิษ PM2.5 ก็มาซ้ำ
คอลัมน์ : คิดเห็นแชร์ (มติชนออนไลน์) ผู้เขียน : นายณัฐพล รังสิตพล (อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) ลดน้อยมากจนแทบจะไม่มีแล้วก็ตาม แต่จากการที่ทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านยังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดอยู่ ทำให้ประเทศไทยมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาการแพร่ระบาดระลอกใหม่ได้ง่าย สิ่งสำคัญที่สุด คือ จำเป็นต้อง “การ์ดอย่าตก” อยู่ตลอดเวลานั่นเอง ในขณะเดียวกันช่วงเดือนธันวาคม-เมษายนของทุกปี เป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยจะเผชิญปัญหามลพิษทางอากาศซึ่งเป็นวังวนเดิมๆ อีกครั้ง นั่นคือ ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ที่ส่งผลอันตรายต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจของมนุษย์ ทราบหรือไม่ว่า ฝุ่นพิษ PM2.5 มีความสัมพันธ์กับอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรค COVID-19 โดยอ้างอิงจากผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เก็บตัวอย่าง 3,000 เขตพื้นที่ในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา พบว่า การเพิ่มขึ้นของอนุภาคฝุ่นพิษ PM2.5 เพียง 1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จะทำให้อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรค COVID-19 เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 15ดังนั้น ปัญหา COVID-19 กำลังถูกปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ซ้ำเติมให้ดูทวีความรุนแรงมากขึ้นไปอีก จึงทำให้เราต้องดูแลตัวเองให้ดี การ์ดอย่าตกมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ผมเคยเล่าถึงปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ไปเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่อยากขอแชร์ข้อมูลเพิ่มเติมถึงสาเหตุของการเกิดฝุ่นพิษ PM2.5 ในชุมชนเมือง ซึ่งผลการศึกษาของกรมควบคุมมลพิษ พบว่าแหล่งที่มาของฝุ่นพิษ PM2.5 ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล เกิดจากการปล่อยมลพิษไอเสียของรถยนต์ที่มีมาตรฐานต่ำ (ยูโร 4) คิดเป็นสัดส่วนมากถึงร้อยละ 52 อีกทั้งเมื่อเกิดปรากฏการณ์สภาพอากาศนิ่ง (Air stagnation) และมีอุณหภูมิลดต่ำลงร่วมด้วย จึงส่งผลให้ฝุ่นพิษเหล่านี้สะสมในปริมาณมากขึ้นและเกินเกณฑ์ค่ามาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพคนไทย โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 62 ได้เห็นชอบแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้าน ฝุ่นละออง” โดยจะบังคับใช้มาตรฐานมลพิษไอเสียจากรถยนต์ยูโร 5 ภายในปี 2564 และยูโร 6 ภายในปี 2565 ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยไม่ตกขบวนตามหลังนานาประเทศไปมากกว่าเดิม เนื่องจากในปัจจุบันมาตรฐานการปล่อยมลพิษไอเสียรถยนต์ของไทยเทียบเท่าเพียงมาตรฐานยูโร 4 เท่านั้น ซึ่งรถยนต์ยูโร 4 ปล่อยฝุ่น PM มากกว่ารถยนต์ยูโร 5-6 ถึง 5 เท่า ซึ่งตามหลังหลายประเทศมาแล้วกว่า 12 ปี จึงไม่น่าแปลกใจที่เรามีปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 มากกว่าหลายๆ ประเทศ ดังนั้น หากประเทศไทยบังคับใช้มาตรฐานมลพิษไอเสียรถยนต์ตามแผนที่ท่านนายกรัฐมนตรีวางไว้ จะช่วยลดปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ในเขตชุมชนเมืองได้อย่างไรก็ตาม มีข้อถกเถียงกันในวงกว้างถึงเรื่องการปรับมาตรฐานมลพิษไอเสียรถยนต์และน้ำมันให้สูงขึ้นจากยูโร 4 เป็นยูโร 5 ว่าใครควรจะเริ่มก่อนกันระหว่างผู้ผลิตรถยนต์หรือโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างก็ต้องมีต้นทุนค่าใช้จ่ายในการปรับเปลี่ยนและยกระดับกระบวนการผลิตที่เพิ่มขึ้น แต่ขอเรียนว่าจากข้อมูลในอดีตพบว่า ยานยนต์ไทยมีการพัฒนามาตรฐานมลพิษไอเสียรถยนต์ในระดับสูงกว่าก่อนคุณภาพน้ำมันเสมอ โดยปัจจุบัน มีรถยนต์มาตรฐานยูโร 5-6 วิ่งอยู่บนท้องถนนคิดเป็นร้อยละ 48 ของจำนวนรุ่นรถยนต์นั่งทั้งหมด (จำนวน 261 รุ่น จาก 544 รุ่น) ที่ปัจจุบันก็เติมน้ำมันยูโร 4 บ้าง น้ำมันยูโร 5 บ้าง ซึ่งยังไม่พบว่ามีปัญหาจากการใช้งานแต่อย่างใด ที่น่าสนใจก็คือ ผลการศึกษาโครงการประเมินอัตราการเปลี่ยนแปลงของปริมาณการระบายสารมลพิษจากรถยนต์ที่มีมาตรฐานแตกต่างกันของกรมควบคุมมลพิษ พบว่า ถ้ารถยนต์ยูโร 4 เติมน้ำมันยูโร 5 จะสามารถทำให้ฝุ่น PM ลดลงได้กว่าร้อยละ 25 แม้ว่าในปัจจุบันมีผู้ผลิตน้ำมันยูโร 5 ออกมาจำหน่ายในท้องตลาดแล้ว แต่ด้วยการกำหนดราคาที่แพงกว่าน้ำมันยูโร 4 จำนวน 3-5 บาท/ลิตร จึงทำให้กำลังการผลิตน้ำมันยูโร 5 ในประเทศเหลือถึงร้อยละ 99 จากกำลังการผลิตสูงสุดของน้ำมันยูโร 5 ที่โรงกลั่นในประเทศสามารถผลิตได้ทั้งหมด (ข้อมูลปี 2563 จากสถาบันปิโตรเลียม) ดังนั้น ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ผมอยากให้กระทรวงพลังงานช่วยกันดูแลสุขภาพของคนไทย โดยอาจใช้มาตรการอุดหนุนราคาน้ำมันยูโร 5 เพื่อช่วยพยุงสุขภาพของประชาชน เช่นเดียวกับที่เคยอุดหนุนราคาน้ำมันเอเทนอลและไบโอดีเซล เพื่อพยุงราคาผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกร โดยอาจกำหนดกรอบเวลาและจำกัดพื้นที่ในการจำหน่ายน้ำมันยูโร 5 เฉพาะในช่วงที่ประเทศไทยเจอปัญหาฝุ่น PM2.5 ก็อาจเป็นแนวทางที่ช่วยทำให้ปัญหาฝุ่น PM2.5 เบาบางลงได้และทำให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดีขึ้น สุดท้ายนี้ จะเห็นว่าปัญหา COVID-19 ยังไม่ซา ฝุ่นพิษ PM2.5 ก็มาซ้ำ สำหรับวิกฤตการณ์ COVID-19 เราต้องการวัคซีนเพื่อป้องกันปัญหาถาวร แต่ในขณะที่วิกฤตการณ์ฝุ่นพิษ PM2.5 ก็ยังคงเป็นปัญหาเดิมที่วนเวียนมาทุกปีอย่างไม่จบสิ้น ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาให้หายขาด เพื่อให้ท้องฟ้าที่สดใสกลับคืนสู่ประเทศไทยอีกครั้ง และต้องช่วยกันไม่ให้มีอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรค COVID-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะฉะนั้น การ์ดอย่าตกครับ ที่มา https://www.matichon.co.th/columnists/news_2476389
07 ธ.ค. 2563
“อธิบดีณัฐพล” ร่วมน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ วันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา รัชกาลที่ 9
กรุงเทพฯ 5 ธันวาคม 2563 – นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมพิธีถวายบังคม เนื่องในวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของรัชกาลที่ 9 โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ร่วมด้วย คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว ณ ท้องสนามหลวง ### PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน /ภาพข่าว
07 ธ.ค. 2563