“เครื่องเงิน” เครื่อง ประดับภูมิปัญญาท้องถิ่น ของเขวาสินรินทร์มรดกทาง วัฒนธรรมที่ผ่านกระบวนการ ขัดเกลาและมีการสืบทอดกันมาเป็นเวลานาน ซึ่งปัจจุบันเหลือผู้ผลิตน้อยราย คุณฐิติวรรณ อยู่ครบ เจ้าของร้านฐิติวรรณ เครื่องเงิน ตัวแทนบรรพบุรุษ เขวาสินรินทร์ที่ต้องการ สืบทอดมรดกนี้ให้เป็นที่รู้จัก ในวงกว้างมิให้เลือนหาย ไปตามกาลเวลาจึงพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์เครื่องเงิน ผ่านโครงการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมโดยใช้ทุนทางวัฒนธรรมและ ภูมิปัญญา ประจำปี 2560 โดยนำผ้าไหม ของจังหวัดสุรินทร์มาพัฒนาให้คงทนขึ้น มาเป็น ส่วนประกอบของสายสร้อยคอและกำไล แทน การใช้เครื่องเงินทั้งชิ้น สร้างลวดลายใหม่ที่ สวยงามแปลกตาอีกทั้งลดต้นทุนการผลิตจาก การลดปริมาณการใช้เครื่องเงินลงได้ เจาะกลุ่ม ลูกค้าที่ชื่นชอบงานเครื่องประดับแฮนด์เมด อีกทั้ง สามารถร่วมออกแบบลวดลายของตนเองได้ด้วย ด้วยราคาที่ไม่สูงนัก เฉลี่ย 2,500-2,800 บาท เท่านั้น จากเดิมที่ต้องขายในราคา4,500 บาท เนื่องจากต้นทุนของเครื่องเงินที่สูง ผู้บริโภคจึง ตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ทางร้านมี รายได้เพิ่มมากขึ้นกว่า20% ตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่พัฒนางานมา คุณฐิติวรรณ อยู่ครบ ร้านฐิติวรรณเครื่องเงิน 282 หมู่ 1 ต.เขวาสินรินทร์ อ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์ 32000 โทรศัพท์ : 08 1391 7423 ที่มา : รายงานประจำปี 2560 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

จากขนมครกร้านธรรมดาที่ขายในตลาดราชวัตร ไม่มีชื่อร้าน แต่ด้วยรสชาติที่ถูกปาก อร่อย หอม มัน ทำให้มีเจ้าหน้าที่ทั้งวังสวนจิตรวังสุโขทัย แวะเวียนมาซื้ออยู่บ่อย ๆ กระทั่งได้รับความนิยมในวงกว้าง เรียกขาน ขนมครกร้านนี้ว่า “ขนมครกเข้าวัง” และได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี โดยมีคุณสกนธ์ ฐาปนะกิจไพบูลย์ เป็นผู้สืบทอดสูตรในนามบริษัท เค อี แอนด์ ที จำกัด ที่มองว่า ขนมครก มิได้เป็นเพียงแค่ธุรกิจเล็ก ๆ ในตลาดเท่านั้น หากตั้งใจพัฒนาจริง ก็สามารถขยายเป็นแฟรนไชส์หรือแม้กระทั่งขายออกไปต่างประเทศได้ ด้วยเหตุผลนี้คุณสกนธ์จึงเดินหน้าเข้าร่วมโครงการกิจกรรมพัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป ประจำปีงบประมาณ 2560 พัฒนาจากขนมครกสด มาเป็น “ขนมครกอบกรอบเข้าวัง” มีอายุการเก็บรักษานาน สามารถจำหน่ายเป็นของฝากได้ เพิ่มช่องทางสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง โดยเริ่มจากผลิตแบบพาสเจอร์ไรซ์ ซึ่งมีอายุการเก็บรักษาได้นาน แต่ต้องอยู่ในตู้เย็นถึงจะคงความกรอบเหมือนทำเสร็จใหม่ ๆอีกทั้งบรรจุภัณฑ์ยังไม่ช่วยคงเอกลักษณ์ในเรื่องของกลิ่นและรสชาติของขนมครกแบบดั้งเดิมไว้ได้ จึงพัฒนาต่อด้วยการผลิตเป็นแบบสเตอริไลซ์มีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนานถึง 1 ปี ในอุณหภูมิห้อง คงความกรอบ หอมกลิ่นกะทิ ปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัย แต่คงเอกลักษณ์ความเป็นไทย มีสารดูดความชื้นเพื่อรักษาความกรอบและการเกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ พร้อมพัฒนาแป้งเป็นข้าวไรซ์เบอรี่เพื่อสุขภาพมากขึ้น มีทั้งหมด 10 หน้าให้เลือก ขายในราคากล่องละ 40-60 บาท จากเดิม 20-40 บาท ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น 5% เพราะปัจจุบันคุณสกนธ์ยังหาบริษัทรับผลิตเข้ามาช่วยได้ไม่เต็มกำลังจึงทำให้ธุรกิจสะดุดเล็กน้อย คาดว่าหากแหล่งผลิตลงตัวและวางจำหน่ายตามร้านขายของฝาก ภายในปีหน้าจะสามารถเพิ่มมูลค่าการขายได้อีกเท่าตัว คุณสกนธ์ ฐาปนะกิจไพบูลย์ บริษัท เค อี แอนด์ ที จำกัด 102/122 ถ.เทศบาลสงเคราะห์แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ : 0 2241 3840,08 1916 0974 www.ขนมครกเข้าวัง.com ที่มา : รายงานประจำปี 2560 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

คุณชูเกียรติ บุญเรือง นำวิชาความรู้ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ร่ำเรียนมา บวกกับความชื่นชอบวิชาเครื่องหนังมาตั้งแต่สมัยเรียนต่อยอดเป็นธุรกิจของตัวเอง สร้างแบรนด์ FULAME (ฟูลาเม่) โดยเริ่มต้นจากนำเครื่องหนังมาทำเป็นกระเป๋า สายกล้อง และพวงกุญแจ แต่เมื่อลองไปออกบูธขายก็พบว่างานเครื่องหนังที่คนอื่นขายไม่ต่างจากที่ตัวเองทำ จึงคิดทบทวนใหม่ ว่าจะทำอย่างไรให้ผลิตภัณฑ์ของตัวเองมีความแตกต่างจากของคนอื่นในท้องตลาด หลังจากการลองผิดลองถูกค้นหาเทคนิค วัสดุ และวิธีการใหม่ ๆ เพื่อมาปรับใช้กับงานเครื่องหนัง ในที่สุดก็ได้เทคนิคการย้อมครามบนเครื่องหนัง ซึ่งจะต่างจากเดิมที่เป็นการย้อมลงบนผืนผ้าที่เห็นกันทั่วไปโดยหลังจากที่ได้หัดย้อมลงบนแผ่นหนังได้สำเร็จ จึงต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นเครื่องหนังย้อมครามธรรมชาติ เช่น เครื่องประดับ กระเป๋า รองเท้า ซึ่งมีซิกเนเจอร์เฉพาะตัว แต่การจะทำให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักและก้าวไปสู่สากล ต้องอาศัยองค์ความรู้ที่มากขึ้นจึงได้เข้าร่วมกิจกรรมเสริมสร้างศักยภาพนักออกแบบสู่สากลในรูปแบบ Academy ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม องค์ความรู้และคำแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับแฟชั่นที่ได้รับถูกนำมาเป็นแนวคิดในการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความทันสมัย ตรงใจกลุ่มลูกค้าโดยนำเครื่องหนังย้อมครามธรรมชาติมาออกแบบเป็นชุดเดรสแบบสั้นและแบบยาวเจาะกลุ่มผู้หญิงที่ชื่นชอบแฟชั่นหรือเปลี่ยนการแต่งกายไปตามเทรนด์แต่เนื่องจากในกระบวนการผลิตต้องใช้ต้นทุนสูง ในระยะแรกจึงเป็นการพัฒนาชุดเดรสผ้าคราม และเครื่องประดับหนังที่ออกแบบมาให้เข้ากันกับชุด ซึ่งจากการนำผลิตภัณฑ์ไปออกบูธเพื่อจำหน่าย สามารถเพิ่มยอดขายจาก 40,000 - 50,000 บาท เป็น 150,000 บาท คุณชูเกียรติ บุญเรือง แบรนด์ FULAME 186 หมู่ 10 ถ.พหลโยธิน ต.ศรีค้ำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย 57110 โทรศัพท์ : 09 7192 4716 http://www.facebook.com/Fulame ที่มา : รายงานประจำปี 2560 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพื้นที่ที่อุดมไปด้วยผัก ผลไม้คุณภาพสูง รสชาติดี จึงเป็นที่มาของชื่อบริษัท ฝาง อินเตอร์ฟูดส์ จำกัด ผลิตและจำหน่ายผักและผลไม้บรรจุกระป๋องและภาชนะปิดสนิท เช่น หน่อไม้ ลิ้นจี่ ลำไย และข้าวโพด โดยดำเนินธุรกิจมากว่า 30 ปี คุณกันตนา เสถียรติยางกูร เจ้าของธุรกิจมีแนวคิดในการพัฒนาสินค้าจากข้าวโพดกระป๋อง เป็น Cream Corn (ครีมคอร์น) โดยมีแนวคิดการสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้า คือ เสริมใยอาหารจากธรรมชาติ เนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม มีเกลือต่ำทำจากเมล็ดข้าวโพดบดละเอียด ผสมรำข้าวโอ๊ตบรรจุกระป๋อง ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อด้วยความร้อน สามารถเก็บรักษาในภาวะปกติได้นาน เป็นผลิตภัณฑ์พร้อมรับประทาน หรืออุ่นด้วยไมโครเวฟเพียง 30 วินาที จะได้ครีมคอร์น สีสวย กลิ่นหอม รสอร่อย รับประทานง่าย ให้ความอิ่มสำหรับผู้สูงอายุ และผู้บริโภคทั่วไปตามสโลแกน Premium Cream Corn Smooth and Healthy แต่เนื่องจากในกระบวนการผลิตครีมคอร์น มีปัญหาจากที่คิดว่าจะได้ครีมคอร์นสีสวย แต่ผลที่ได้คือสีไม่เสถียร มีความหมองคล้ำ จึงได้เข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับผู้สูงอายุในอนาคต ภายใต้โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปปีงบประมาณ 2560 ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เพื่อขอคำแนะนำ ซึ่งได้รับความรู้ในเรื่องของการพัฒนาส่วนผสม กระบวนการผลิต และอุณหภูมิที่เหมาะสม จนทำให้ครีมคอร์นมีเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม มีใยอาหารจากธรรมชาติให้พลังงานที่เพียงพอ ให้ความอร่อยสำหรับผู้สูงอายุ รับประทานง่าย สามารถเก็บรักษาได้นานโดยไม่เสียคุณภาพ พร้อมรับประทานทั้งแบบเย็นหรืออุ่นไมโครเวฟ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มีมูลค่ายอดขายเพิ่มขึ้นจากเดิม 10% และคาดว่าผลิตภัณฑ์ที่พัฒนานี้จะมีมูลค่ายอดขายในตลาดใหม่เพิ่มขึ้น 10% คุณกันตนา เสถียรติยางกูร บริษัท ฝาง อินเตอร์ฟูดส์ จำกัด 212 หมู่ 17 ต.เวียง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ 50110 โทรศัพท์ : 08 0129 1212, 0 5345 2244 www.fif.co.th ที่มา : รายงานประจำปี 2560 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

กลุ่มแม่บ้านทิวลิป เกิดขึ้นจากการรวมตัวของแม่บ้านที่มีเวลาว่างหลังส่งลูกไปเรียน มาจับกลุ่มกันทำขนมเปี๊ยะ โดยแรกเริ่มนำไปจำหน่ายที่ร้านกาแฟ ร้านอาหาร เมื่อลูกค้าได้ซื้อไปชิมโดยเฉพาะกลุ่มโรงงานบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อย จึงได้จดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนในปี 2558 ด้วยจุดเด่นของขนมเปี๊ยะ แป้งนุ่มไส้แน่น ไม่ใส่สารกันบูด มีหลายไส้ให้เลือก ได้แก่ไส้ถั่ว ไส้ถั่วไข่เค็ม ไส้หมูแดง ไส้กะหรี่ไก่ ไส้ถั่วฟัก ไส้สับปะรด ไส้เผือก ไส้ฝอยทอง และไส้หมูชะมวงที่เป็นซิกเนเจอร์ จำหน่ายภายใต้แบรนด์ 8 เซียนขนมเปี๊ยะแห่งระยอง เนื่องจากอยากได้ความรู้ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นประกอบกับสมาชิกภายในกลุ่มไม่ค่อยชอบออกสังคม คุณลาวรรณ์ ยั่งยืน หัวหน้ากลุ่มแม่บ้านทิวลิป จึงตัดสินใจเข้าร่วม กิจกรรม Thailand Social Enterprise ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ทำให้ได้รับความรู้จากการฝึกอบรมในเรื่องการจัดหน้าร้านเพื่อการแสดงสินค้าทั้งหน้าร้านหลักและตามงานแสดงสินค้าได้อย่างมืออาชีพ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งให้สามารถเพิ่มยอดขาย ขยายจำนวนสมาชิกกลุ่มเป็นการกระจายรายได้ในชุมชนเนินพยอม 8 เซียนขนมเปี๊ยะแห่งระยอง นอกจากจะมีลูกค้ากลุ่มโรงงานเป็นลูกค้าประจำแล้วยังมีออร์เดอร์สั่งทำเป็นสแน็คบ็อกซ์ เวลาที่มีการจัดประชุมสัมมนา หรือทัศนศึกษา รวมทั้งสามารถขยายตลาดสู่กรุงเทพมหานคร ออกบูธงานแสดงสินค้าต่าง ๆ ทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นและมีออร์เดอร์ในการผลิตเข้ามาอย่างต่อเนื่องโดยยอดขายต่อเดือนจาก 20,000 บาทเพิ่มเป็น 160,000 บาท ในปัจจุบัน คุณลาวรรณ์ ยั่งยืน วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านทิวลิปเนินพยอม 28/111 ถ.เนินพยอม ต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง จ.ระยอง 21150 โทรศัพท์ : 08 0564 5943 https://www.facebook.com/8เซียน-ขนมเปี๊ยะแห่งระยอง ที่มา : รายงานประจำปี 2560 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

ด้วยความชื่นชอบการรับประทานข้าวตังอยู่แล้วเป็นทุนเดิม เมื่อคิดอยากทำธุรกิจ คุณรจเลข บุญกานนท์ จึงเลือกจากสิ่งที่ตัวเองรัก นั่นคือธุรกิจข้าวตังหรือธัญพืชอบกรอบ ภายใต้แบรนด์ซัมเมอร์ เมจิก ป๊อบ (Summer Magic Pop) ด้วยจุดเด่นในคุณภาพของข้าวไทยหลากหลายสายพันธุ์ กระบวนการผลิตที่ใช้การอบไม่ใช้น้ำมันทอด รวมถึงใช้ความหวานจากธรรมชาติ จึงได้รสชาติอร่อยถูกปาก เป็นที่ถูกใจของกลุ่มลูกค้าที่รักสุขภาพ เมื่อผลิตภัณฑ์ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า แต่ก็มิอาจปฏิเสธได้ว่าบรรจุภัณฑ์ที่โดดเด่น จะช่วยเสริมให้ผลิตภัณฑ์นั้นมีความน่าสนใจยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงมีแนวคิดที่จะปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ใหม่ แต่เนื่องจากขาดความรู้จึงได้เข้าร่วมโครงการส่งเสริมพัฒนาเพื่อเพิ่มมูลค่าด้วยบรรจุภัณฑ์ ปีงบประมาณ 2560 ของกรมส่งเสริมอตุ สาหกรรม ซึ่งได้รับคำแนะนำในเรื่องของการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยเปลี่ยนจากบรรจุภัณฑ์แบบเดิมที่เป็นถุงแก้วและติดสติ๊กเกอร์ตราสินค้า เป็นบรรจุภัณฑ์แบบใหม่ในรูปแบบกล่องที่มีตราสินค้าให้เห็นอย่างเด่นชัดเพื่อสร้างการรับรู้บวกกับการเลือกใช้สีสันที่สดใสก็ช่วยดึงดูดใจให้ลูกค้าเข้ามาหยิบจับซื้อหามากยิ่งขึ้น เมื่อทดลองวางจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ได้รับการตอบรับที่ดีโดยเฉพาะลูกค้าชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้อกลับไปเป็นของฝาก เพราะสะดวกในการขนย้าย เนื่องจากเป็นบรรจุภัณฑ์รูปแบบกล่อง ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ด้านในจึงไม่แตกหักง่าย ซึ่งจากการพัฒนาปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ใหม่ส่งผลให้มียอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 20-30% คุณรจเลข บุญกานนท์ Summer Magic Pop 29/83 ถ.พระยาสัตจา ต.บางปลาสร้อย อ.เมือง จ.ชลบุรี 20000 โทรศัพท์ : 08 6999 3995 https://www.facebook.com/SummerMagicPop ที่มา : รายงานประจำปี 2560 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

บริษัท ไบโซพลาย จำกัด ถือกำเนิดขึ้น เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2559 จากความตั้งใจของ ดร.อจิราภรณ์ คงผล กรรมการผู้จัดการและยังเป็นหนึ่งในทีมงานวิจัย พัฒนา ผลิตสินค้าและบริการ โดยมีความตั้งใจอยากให้โครงการวิจัยที่ตนเองร่ำเรียนมาก่อร่างสร้างตัวให้เป็นความจริงในเชิงธุรกิจ จึงเข้าร่วมโครงการสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการใหม่เชิงสร้างสรรค์และนวัตกรรม (New Entrepreneurs Creation :NEC) ปี 2560 โดยมีนโยบายเพื่อรักษาสภาพแวดล้อม ซึ่งหลังจากเข้าร่วมโครงการและได้รับทุนวิจัยเพิ่มเติมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ร่วมกับคณะวิทยาศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงสามารถกลับมาพัฒนาธุรกิจของตนเอง ปัจจุบันสามารถปรับปรุงห้องปฏิบัติการจุลินทรีย์ มีการลงทุนนำเครื่องมือวิทยาศาสตร์เข้ามาใช้ พัฒนาทีมวิจัย จนกระทั่งสามารถรับจ้างผลิตและจำหน่ายหัวเชื้อจุลินทรีย์ที่นำไปใช้ในด้านการเกษตร ปศุสัตว์ โดยมีเป้าหมายสร้างแบรนด์เป็นของตนเองในปี 2561 อีกทั้งยังให้บริการให้คำปรึกษา ดูแล และกำจัดกากของเสียอุตสาหกรรม วิจัย พัฒนา และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกากของเสียทั่วไปอีกด้วย ดร.อจิราภรณ์ คงผล บริษัท ไบโซพลาย จำกัด 156 หมู่ 3 ต.ลำพยา อ.เมือง จ.นครปฐม 73000 โทรศัพท์ : 09 5051 4444 www.bisoply.com ที่มา : รายงานประจำปี 2560 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

บนพื้นที่กว่า 80 ไร่ คือแหล่งผลิตข้าวสำคัญของกองธรรมฟู้ด (ธุรกิจชุมชนอิสระบ่อสวรรค์) ผู้ผลิตข้าวกล้องงอกและจมูกข้าวชนิดผงชงดื่มเพื่อสุขภาพ 100% ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบผสมงาดำและถั่วเหลือง และจมูกข้าวฮางหอมออกจำหน่ายสู่ท้องตลาดและห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ภายใต้แบรนด์ Kongtham (กองธรรม) กว่า 10 ปีที่ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักและติดตลาด คุณทรงกลด สารปารัง เจ้าของธุรกิจจึงคิดแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยนำองค์ความรู้ที่มีมาต่อยอดพัฒนาแปรรูปผลิตภัณฑ์เป็นเซรั่มบำรุงผิวจากไอข้าวออร์แกนิคที่ปลูกด้วยกระบวนการทำเกษตรอินทรีย์แบบ 100% ในบรรจุภัณฑ์แบบขวดหัวสเปรย์ที่ใช้ง่าย พกพาสะดวก ซึ่งถึงแม้ธุรกิจจะมีความพร้อมด้านกระบวนการผลิตแต่เท่านั้นยังไม่เพียงพอสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ยังมีเรื่องคุณภาพมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ และการสร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าด้วย จึงได้เข้าร่วมโครงการพัฒนา อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป (Agriproduct Processing Industry Development) กิจกรรมการเชื่อมโยงงานวิจัยสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์แปรรูป ปีงบประมาณ 2560 ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ภายหลังเข้าร่วมโครงการ ได้นำองค์ความรู้ที่มีและคำแนะนำที่ได้รับมาปรับปรุงในส่วนของกระบวนการผลิตเซรั่มบำรุงผิวจากไอข้าวออร์แกนิคภายใต้แบรนด์ borisud (บริสุทธิ์) ที่ต้องสะอาด ปลอดภัย และได้มาตรฐาน รวมถึงให้ความสำคัญกับการวิจัยในด้านประโยชน์ของไอข้าวออร์แกนิค สารสกัดจากธรรมชาติซึ่งมีคุณสมบัติช่วยบำรุงและคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ไปใช้ โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์กำลังอยู่ระหว่างการขอรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา คาดว่าจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการได้ในปี 2561 คุณทรงกลด สารปารัง กองธรรมฟู้ด 47/4 ถ.โภคานุสรณ์ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000 โทรศัพท์ : 08 1964 4384 https://www.facebook.com/kongthamrice ที่มา : รายงานประจำปี 2560 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

บริษัท เอส เค อินเตอร์ฟู๊ด จำกัด เปิดดำเนินธุรกิจสุกรชำแหละและแปรรูปสุกรอนามัยมาตั้งแต่ปี 2548 ภายใต้การบริหารของคุณชนินทร์ ทรงเมฆ โดยผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ เนื้อสุกรอนามัยแช่เย็น เนื้อสุกรอนามัยแช่แข็ง และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อสุกรอนามัย เช่น ลูกชิ้น ไส้กรอก หมูยอ แฮมและเบคอน จำหน่ายแบบขายปลีกที่ร้านค้า 21 สาขาในเขตภาคเหนือ รวมทั้งขายผ่านโมเดิร์นเทรด และขายส่งโรงงานเพื่อแปรรูปส่งออก โดยมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 300-350 ตัวต่อวัน ในการดำเนินธุรกิจ คุณชนินทร์ให้ความสำคัญกับเรื่องของมาตรฐานเป็นสำคัญ จึงได้เข้าร่วมโครงการยกระดับดาวเด่น SMEs ไทย(DIP Stars) ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ภายหลังได้รับบริการปรึกษาแนะนำเชิงลึกวิเคราะห์ถึงโอกาสและแนวทางการพัฒนาศักยภาพ การส่งเสริมด้านการตลาดและจุดแข็งของเอส เค อินเตอร์ฟู๊ดในด้านการเป็นบริษัทที่ได้รับรองการส่งออกเนื้อหมู 1 ใน 8 ของประเทศ ซึ่งถึงแม้จะเป็นโรงงานขนาดเล็กที่สุดที่ได้รับการรับรองมาตรฐานดังกล่าว แต่ในด้านมาตรฐานนั้นถือว่าเทียบเท่ากับโรงงานขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจากการพัฒนามาตรฐานดังกล่าว ทำให้บริษัทฯสามารถคว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น หรือ The Prime Minister Industrial Award ประจำปี 2560 ไปครองได้สำเร็จ การได้รับรางวัลนอกจากจะเป็นขวัญกำลังใจแก่พนักงานที่ทุ่มเทในด้านการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีต่อลูกค้าแล้ว ขณะเดียวกันเมื่อลูกค้ารับรู้ถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ ได้ส่งมอบให้ ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2560 มียอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 33% คุณชนินทร์ ทรงเมฆ บริษัท เอส เค อินเตอร์ฟู๊ด จำกัด 245 ต.ไม้งาม อ.เมือง จ.ตาก 63000 โทรศัพท์ : 0 5588 0012 http://www.facebook.com/skinterfood ที่มา : รายงานประจำปี 2560 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

ประกาศกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เรื่อง รับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป 19 อัตรา (สมัครทาง Internet ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2560 ถึงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560 ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ) รายละเอียดดังแนบ