Category
พระราชบัญญัติและระเบียบกระทรวงการคลัง
พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560
12 พ.ค. 2020
กฎหมายเกี่ยวกับการปฏิบัติราชการ
พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยลูกจ้างประจำของส่วนราชการ พ.ศ. 2537 พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 พระราชกฤษฏีกา ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2553 ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. 2555 ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรถราชการ พ.ศ. 2523 ระเบียบสำนักนายกว่าด้วยการอนุมัติให้เดินทางไปราชการและการจัดการประชุมของทางราชการ พ.ศ. 2524 ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 กฎ ก.พ. ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2539) ออกตามความในพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 ว่าด้วยกรณีความผิดที่ปรากฏชัดแจ้ง กฎ ก.พ.ค. ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ พ.ศ. 2551 กฎ ก.พ.ค. ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2552 กฎ ก.พ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการพลเรือนสามัญออกจากราชการกรณีเจ็บป่วยไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ราชการของตนได้โดยสม่ำเสมอ พ.ศ. 2556 ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการเรี่ยไรของหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2544 ระเบียบคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ว่าด้วยวินัยทางงบประมาณและการคลัง พ.ศ. 2544 ระเบียบกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ว่าด้วยการใช้ตราสัญลักษณ์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พ.ศ. 2556
12 พ.ค. 2020
ประชาสัมพันธ์สื่อเพื่อเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม ให้แก่บุคลากรในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม
เพื่อเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม ให้แก่บุคลากรในสังกัดอุตสาหกรรม ในการนี้จึงได้จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว ตามความในมาตรา 128 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 สื่อประชาสัมพันธ์ "การขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม"
12 พ.ค. 2020
กสอ. จับมือ สถาบันพลาสติก ผลิต "FACE SHIELD" ส่งมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์และอสม.ในส่วนกลางและภูมิภาค
กรุงเทพฯ 7 พฤษภาคม 2563 - นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายวีระ ขวัญเลิศจิตน์ ผู้อำนวยการสถาบันพลาสติก นายภาสกร ชัยรัตน์ นายใบน้อย สุวรรณชาตรี นายเจตนิพิฐ รอดภัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา เลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) และเจ้าหน้าที่ กสอ. เข้าร่วมประชุมผ่านระบบ Zoom Meeting เพื่อสาธิตวิธีการประกอบ "FACE SHIELD" หน้ากากป้องกันละอองฝอยส่งมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์และอสม.ในส่วนกลางและภูมิภาค นอกจากนี้ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมยังรับชมการนำเสนอวิดีโอคลิป New Normal แต่ละหน่วยงานของ กสอ. พร้อมทั้งได้ซักถามและให้ข้อเสนอแนะแก่หน่วยงานอีกด้วย ณ ห้อง DIProm Co-working Space ชั้น 3 อาคาร กสอ. ### PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว
08 พ.ค. 2020
ยกเลิกการเรียกสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน เพื่อติดต่อขอรับบริการกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
การไม่เรียกสำเนาเอกสารที่ทางราชการออกให้ จากประชาชน ตามมาตรการอำนวยความสะดวกและลดภาระแก่ประชาชน
05 พ.ค. 2020
คิดเห็นแชร์ : "นิวนอร์มอล" โอกาสของธุรกิจและอุตสาหกรรมไทย
คอลัมน์ : คิดเห็นแชร์ (มติชนออนไลน์) ผู้เขียน : นายณัฐพล รังสิตพล (อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) สวัสดีแฟนๆ คิด เห็น แชร์ ทุกท่านครับ…เดือนที่ผ่านมาอาจมีผู้คนจำนวนไม่น้อยอยากให้วันเวลาผ่านไปโดยเร็ว เพราะคงมีหลายท่านที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ดี ปลายอุโมงค์ยังมีแสงสว่างอยู่เสมอ จากสถานการณ์ปัจจุบัน ประเทศไทยเริ่มมีสัญญาณบวกและมีแนวโน้มที่จะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้ก่อนนานาประเทศ สะท้อนจากตัวเลขของผู้ติดเชื้อที่ลดลงในระดับต่ำกว่าสิบคนต่อวัน รวมถึงตัวเลขผู้ป่วยที่รักษาหายและกลับบ้านได้เกินกว่าร้อยละ 90 รัฐบาลจึงมีมาตรการผ่อนปรนให้ผู้ประกอบการกลับมาเริ่มดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้นและคงต้องมีมาตรการป้องกันอีกพักใหญ่ ถือเป็นสัญญาณที่ดีของประเทศไทยที่น่าจะกลับเข้าสู่ช่วงเวลาฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เราอาจยังไม่สามารถพึ่งพารายได้จากการส่งออกสินค้าบางประเภท รวมถึงรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้ เพราะสถานการณ์ของโลกทั้งใบโดยเฉพาะประเทศคู่ค้าหลักของไทยยังคงเผชิญกับวิกฤตการณ์นี้กันอยู่ โดยข้อมูลเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 จำนวนยอดผู้ติดเชื้อสะสมมีมากกว่าสามล้านคนทั่วโลกและมีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงกว่าสองแสนคน หากเปรียบวิกฤตการแพร่ระบาดไวรัสโควิค-19 เป็นเหมือนภาพยนตร์สงคราม จะพบว่าประชาชนมีบทบาทเหมือนทหารแนวหน้าที่กำลังรบกับข้าศึกไวรัสโควิด-19 หากประชาชนต่อสู้โดยใช้อาวุธครบมือ (ใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ เว้นระยะห่างทางสังคม ปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด) เราจะสามารถเอาชนะศึกครั้งนี้ได้โดยเกิดการสูญเสียน้อยที่สุด และยังไม่เป็นภาระกับบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเปรียบเสมือนแพทย์สนามที่ต้องคอยรักษาทหารที่บาดเจ็บ (ประชาชนผู้ติดเชื้อ) อีกด้วย นอกจากนี้ ภายหลังสงครามสิ้นสุดลง ประเทศที่เกิดสงครามจะได้รับความบอบช้ำไม่มากก็น้อย จึงต้องเร่งเยียวยาและฟื้นฟูประเทศให้กลับมาเข้มแข็งดังเดิม และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอาจมีบางสิ่งเปลี่ยนไปอย่างถาวร โดยสิ่งเหล่านั้นเรียกว่า นิว นอร์มอล (New Normal) หรือความปกติแบบใหม่ ซึ่งอะไรหลายๆ อย่างจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมของคน หรือแม้กระทั่งมิติการประกอบธุรกิจ ระบบเศรษฐกิจและสภาพสังคม เพราะทุกคนต้องปรับตัวจากข้อจำกัดที่เกิดขึ้น จนกลายเป็นสิ่งคุ้นชินและกลายเป็นเรื่องปกติในวิถีชีวิตรูปแบบใหม่บนโลกใบเดิม แม้แต่ภาครัฐเองก็ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์และความต้องการของประชาชน เช่นเดียวกับภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมก็ต้องปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น วันนี้ผมเลยอยากจะแชร์ไอเดียที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้ทำการวิเคราะห์โอกาสของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เป็นนิว นอร์มอล หลังสิ้นสุดสงครามไวรัสโควิด-19 ของประเทศไทยใน 6 มิติ ดังนี้ 1.Global Food Producers ประเทศไทยมีจุดแข็งและมีความมั่นคงทางด้านอาหารสูง แม้ในสภาวะวิกฤตที่ทั้งโลกกำลังเผชิญ ซึ่งตอกย้ำภาพการเป็นผู้นำในตลาดอาหารโลกได้เป็นอย่างดี โดยต้องเร่งพัฒนาทั้งห่วงโซ่ของอุตสาหกรรมอาหาร ด้วยการใช้เกษตรอุตสาหกรรมพัฒนาตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง เพื่อตอกย้ำการเป็นฐานการผลิตอาหารอันดับ 1 ของโลก 2.Thai Digital Platforms ประเทศไทยจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเร่งสร้างแพลตฟอร์มการค้าออนไลน์และระบบขนส่งสินค้าเอกชนสัญชาติไทยขึ้นมาเพื่อรองรับธุรกิจ e-Commerce ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพื่อช่วยผู้ประกอบการไทยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียให้กับแพลตฟอร์มคนกลางของการค้าออนไลน์ ซึ่งเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเกือบทั้งหมดเป็นของต่างประเทศ 3.National Quality Infrastructure & Local Economy ประเทศไทยควรเร่งกระตุ้นให้เกิดการสร้างค่านิยมให้เห็นคุณค่าของสินค้าและบริการไทย (Made in Thailand) ควบคู่กับการส่งเสริมให้คนไทยเที่ยวเมืองไทย เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียนในประเทศ ต่อท่อน้ำเลี้ยงให้เศรษฐกิจฐานราก สร้างความเข้มแข็งของประเทศไทยจากภายใน 4.High Productivity & Industry 4.0 ประเทศไทยควรใช้โอกาสนี้ปรับเพิ่มผลิตภาพภาคการผลิตและบริการด้วยการใช้เทคโนโลยีไอทีและระบบออโตเมชั่น ลดการพึ่งพาแรงงานต่างด้าว เพื่อปรับระดับประสิทธิภาพการประกอบธุรกิจของประเทศไปสู่นิว นอร์มอล ลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 จากการข้ามพรมแดนที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ ซึ่งเป็นภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขของประเทศไทยอีกด้วย 5.Health and Wellness Tourism การที่ปัจจุบันประเทศไทยเปรียบเสมือนไข่แดงที่ควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิผลจนทั่วโลกต่างชื่นชม เราจึงควรใช้โอกาสจากจุดแข็งด้านระบบสาธารณสุขโปรโมตและยกระดับการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่ใส่ใจด้านอนามัย เน้นคุณภาพและความปลอดภัย โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่มีทิศทางและโอกาสเติบโตต่อเนื่อง 6.Medical and healthcare Industry ประเทศไทยควรเร่งส่งเสริมอุตสาหกรรมด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ผลิตสินค้าเพื่อใช้เองในประเทศ โดยเฉพาะเครื่องมือแพทย์และสินค้าที่จำเป็นในการป้องกันและรักษาชีวิตประชาชน เพื่อรองรับปัญหาด้านสาธารณสุขในอนาคต สุดท้ายนี้ ผมคาดว่านิว นอร์มอลทั้ง 6 มิติ ที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้ทำการวิเคราะห์มานี้ จะเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการหรือว่าที่ผู้ประกอบการใหม่ นำไปปรับใช้ในการวางแผนประกอบธุรกิจหลังวิกฤตสงครามไวรัสโควิด-19 สิ้นสุดลง เพื่อช่วยกันเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยให้กลับมาแข็งแกร่งและเติบโตยิ่งกว่าเดิม ที่มา https://www.matichon.co.th/economy/news_2166526
02 พ.ค. 2020
กสอ. ติดอาวุธออนไลน์ SMEs ฝ่าวิกฤตโควิด-19 เร่งปรับกลไกการขายผ่าน Facebook Live
กรุงเทพฯ 1 พฤษภาคม 2563 – นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมทางออนไลน์ “หลักสูตร Facebook live ถ่ายทอดสดผ่าน Facebook ให้เหมือนรายการทีวี” ร่วมด้วย นายภาสกร ชัยรัตน์ นายใบน้อย สุวรรณชาตรี รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ณ ห้อง Co-working space ชั้น 3 อาคาร กสอ. การอบรมดังกล่าวดำเนินงาน ภายใต้โครงการ “ปั้น SMEs ค้าออนไลน์สู้วิกฤตโควิด-19” ซึ่งเป็นคอร์สอบรมบนออนไลน์ไลฟ์สตรีมผ่าน กลุ่มติดปีกค้าออนไลน์ ทาง Facebook Page กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIProm) เพื่อเพิ่มทักษะให้กับผู้ประกอบการและประชาชนที่สนใจเรียนรู้เทคนิคการประกอบธุรกิจ รวมถึงส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชน ดำเนินธุรกิจด้านการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อทดแทนในช่วงที่พฤติกรรมของคนไทยชะลอการซื้อผลิตภัณฑ์ตามสถานที่สาธารณะและร้านค้าต่าง ๆในภาวะวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โรคโควิด-19 โดยการอบรมในครั้งนี้มีผู้ประกอบการและบุคคลทั่วไปสนใจเข้าร่วมกลุ่มดังกล่าวกว่า 4,600 ราย ซึ่งมีวิทยากรที่เชียวชาญด้าน Digital Marketing มาถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ในครั้งนี้ ### PR.DIProm (กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) รายงาน/ภาพข่าว
01 พ.ค. 2020