หมวดหมู่
เขย่าวงการโลจิสติกส์ไทย! จับตา 'ดีพร้อม' สยายปีกรุก “ภาคขนส่งสีเขียว” หนุนนโยบาย ”รมว.เอกนัฏ“ BCG-driven Enterprise โชว์ต้นแบบ 25 กิจการ ลดก๊าซเรือนกระจกกว่า 6,000 ตันคาร์บอน สร้างมูลค่าโดยรวมเกิน 200 กว่าล้านบาทต่อปี
กรุงเทพฯ 13 ธันวาคม 2567 – นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีปิดและมอบวุฒิบัตรในกิจกรรมการกระจายสินค้าของสถานประกอบการภาคอุตสาหกรรมตามแนวทาง BCG Model ภายใต้โครงการการยกระดับ SME ด้วยการประยุกต์ใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) ผู้ประกอบการ และสื่อมวลชน เข้าร่วมงาน โดยมี นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวรายงาน ณ ห้องพระยา 1 ชั้น 3 โรงแรมเดอะควอเตอร์ เจ้าพระยา บาย ยูเอชจี คลองสาน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ปัจจุบันกระทรวงอุตสาหกรรมได้ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายการสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ภาคประชาสังคมและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสถานประกอบการโดยการพัฒนาองค์ความรู้ในการดำเนินธุรกิจตามแนวคิด BCG เพื่อมุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมสีเขียวที่เป็นกติกาทางการค้าที่อุตสาหกรรมไทยจำเป็นต้อง ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม จึงได้ดำเนินการตามนโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรมไทยสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส” โดยได้มอบหมายให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เร่งส่งเสริมและกำกับดูแลภาคอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุม เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไปพร้อม ๆ กับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนอย่างแท้จริง รวมถึงการดึงดูดการลงทุนกลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่มีศักยภาพ ตลอดจนต้องการยกระดับเศรษฐกิจไทยไปสู่การเป็นเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) ในการพัฒนาเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ได้ขานรับนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรมผ่านการดำเนินโครงการการยกระดับธุรกิจ SMEs ด้วยการประยุกต์ใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG โดยมุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด BCG Model (Bio-Circular-Green Economy) ด้วยการช่วยเหลือและยกระดับธุรกิจเอสเอ็มอี (SMEs) ด้วยการประยุกต์ใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การพัฒนาและยกระดับกระบวนการผลิตให้มิตรต่อสิ่งแวดล้อม (BCG-driven Enterprise) ลดต้นทุนการใช้พลังงานและเชื้อเพลิงจากชีวมวล (Biomass) ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการบริหารจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากเศษวัสดุเหลือใช้ภายในสถานประกอบการ (Upcycled Product) รวมถึงได้ดำเนินการ “กระจายสินค้าของสถานประกอบการภาคอุตสาหกรรมตามแนวทาง BCG Model” ซึ่งเป็นการพัฒนาผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการผลิตที่มีคลังสินค้าและ/หรือขนส่งของตนเอง และผู้ให้บริการโลจิสติกส์ (Logistics Service Provider) เช่น บริการขนส่ง คลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้าครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศให้สามารถรวบรวมข้อมูลและเตรียมความพร้อมที่จะขอการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร (Carbon Footprint for Organization: CFO) พร้อมกับการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนขององค์กร โดยเฉพาะระบบการ Tracking รถขนส่งเพื่อติดตามเส้นทาง พฤติกรรมการขับขี่ และประสิทธิภาพการใช้รถ โดยมีสถานประกอบการผ่านการคัดเลือกจำนวน 25 ราย ซึ่งคาดว่าจะสามารถขยายผลการยกระดับการบริหารจัดการโลจิสติกส์ได้กว่า 206 ล้านบาท และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 6,000 ตันคาร์บอนต่อปี ทั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมโครงการที่มีความพร้อมที่จะยื่นขอใบรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นต์องค์กร (CFO) จำนวน 5 กิจการ นางสาวณัฏฐิญา กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ดีพร้อม ขอเชิญชวนผู้ประกอบการที่ต้องการเพิ่มศักยภาพในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ ECO Move ระบบขนส่งลดคาร์บอนด้วยโลจิสติกส์เทคโนโลยีตามแนวทาง BCG Model ภายใต้กิจกรรมการพัฒนาและยกระดับกระบวนการผลิตสู่อุตสาหกรรมผลิตภาพสีเขียว (Green Productivity) การให้คำปรึกษาเชิงลึกแก่ผู้ให้บริการโลจิสติกส์สีเขียว (Green Transport) และการอบรมด้าน Green Logistics และมาตรฐานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas) ตาม ISO 14064-1 ผู้ประกอบการสามารถติดตามข่าวสารของ ดีพร้อม ผ่านช่องทาง DIPROM Service (www.diprom.go.th) นอกจากจะลดต้นทุนและลดของเสีย เปลี่ยนต้นทุนเป็นรายได้และกำไร พร้อมสร้างเครือข่ายใหม่ ๆ แล้ว ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของอุตสาหกรรมของประเทศไทย ส่งผลต่อการเข้าถึง มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของประเทศได้ไวยิ่งขึ้นอีกด้วย นางสาวณัฏฐิญา กล่าวทิ้งท้าย
17 ม.ค. 2568
เชิญสมัครเข้าร่วมกิจกรรมยกระดับการบริหารจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพซัพพลายเชนด้วยระบบโซ่ความเย็น
ขอเชิญสถานประกอบการภาคอุตสาหกรรมสมัครเข้าร่วมกิจกรรม การพัฒนาและส่งเสริมมาตรฐานและวิธีปฏิบัติที่ดี ด้านวิธีการจัดส่งสินค้าที่ดี (Good Distribution Practices: GDP) และวิธีการจัดเก็บสินค้าที่ดี (Good Storage Practice: GSP) ในการบริหารจัดการระบบโซ่ความเย็น สำหรับอุตสาหกรรมกิจกรรมยกระดับการบริหารจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพซัพพลายเชนด้วยระบบโซ่ความเย็น ดำเนินการโดย : กองโลจิสติกส์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย อุตสาหกรรมเกษตรเเปรรูป อุตสาหกรรมอาหารเเปรรูป อุตสาหกรรมเครื่องดื่ม หรือผู้ให้บริการโลจิสติกส์ (LSP) หรืออุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง สิ่งที่ผู้ประกอบการจะได้รับ การันตีผลการลดต้นทุนโลจิสติกส์หรือการเพิ่มประสิทธิภาพไม่ต่ำกว่า 15% วิธีการจัดส่งสินค้าที่ดีและวิธีการจัดเก็บสินค้าที่ดี ที่เกี่ยวข้องกับระบบโซ่ความเย็น การวิเคราะห์ปัญหาและการแก้ไขปัญหาเชิงลึก ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ให้คำแนะนำ เชิงลึก ณ สถานประกอบการ การประเมินศักยภาพด้วย ILPI เพื่อยืนยันประเด็นปัญหาที่แท้จริง เงื่อนไขในการสมัครเข้าร่วมกิจกรรม สถานประกอบการที่จดทะเบียนนิติบุคคล เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมาย มีความพร้อมในการดำเนินกิจกรรมได้ตลอดระยะเวลาดำเนินการ มีผู้ถือหุ้นสัญชาติไทย 51% ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย รับจำนวนจำกัด สมัครได้ตั้งแต่ 8 ม.ค. 68 - 31 ม.ค. 68 และปิดรับสมัครเมื่อครบตามจำนวน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กลุ่มมาตรฐานและนวัตกรรมโลจิสติกส์ กองโลจิสติกส์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม 0 2422 8688 ต่อ 2606 (คุณอัญชลี สาลีรัตน์) 0 2422 8688 ต่อ 2603 (คุณธิติ ศรีวรรณยศ) 0 2430 6875 ต่อ 1558 (คุณอภิสิทธิ์ จันทร์เพ็ชรพูล)
17 ม.ค. 2568
"ดีพร้อม" จับมือ "EXIM BANK" เดินหน้านโยบาย "รมว.เอกนัฏ" สร้างธุรกิจสีเขียว ส่งเสริมผู้ประกอบการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมยุคใหม่อย่างยั่งยืน
กรุงเทพฯ 11 ธันวาคม 2567 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในการประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) นำโดย ดร.เบญจรงค์ สุวรรณคีรี รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK พร้อมคณะ ในประเด็นการร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการในด้านต่าง ๆ โดยมีคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) เข้าร่วม ณ ห้องประชุม 3 ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) การประชุมครั้งนี้ เป็นการหารือเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมในการสร้างโอกาสความร่วมมือและสนับสนุนผู้ประกอบการไทยอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการบูรณาการร่วมกัน ระหว่าง ดีพร้อม และ EXIM BANK ซึ่งดีพร้อมเป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการให้มีประสิทธิภาพ เพิ่มสมรรถนะและขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจได้อย่างเข้มแข็ง เพื่อยกระดับผู้ประกอบการไทยให้สามารถพัฒนาธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ให้ต่อยอดสู่สากลได้ ส่วนของ EXIM BANK ถือเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การค้าและการลงทุนของไทยให้เติบโตในเวทีโลกอย่างยั่งยืน ด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนการส่งออก การนำเข้า และการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจสีเขียวในภาคการเงิน ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยในการสนับสนุนการเข้าสู่อุตสาหกรรมยุคใหม่ได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ดีพร้อม และ EXIM BANK ได้เล็งเห็นโอกาสในการร่วมมือกันสนับสนุนผู้ประกอบการในด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย 1) การสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจสีเขียว อาทิ การอบรมเพิ่มองค์ความรู้ 2) การจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) ในการสนับสนุนทางด้านการเงินและการวิเคราะห์คู่ค้า 3) การส่งเสริมให้เกิดผู้ประกอบการใหม่ โดยการเข้าไปช่วยวิเคราะห์ธุรกิจตั้งแต่เริ่มต้น และบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมผลักดัน และ 4) การส่งเสริมวิสาหกิจให้เติบโตบนพื้นฐานของความยั่งยืนผ่านการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศให้เพิ่มขึ้น ตามนโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส” ของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
16 ม.ค. 2568
กระทรวงอุตฯ ชู 41 องค์กรต้นแบบ เตรียมรับรางวัลจากนายกรัฐมนตรีในงานมอบ "รางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2567"
กรุงเทพฯ 11 ธันวาคม 2567 - นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานรางวัลอุตสาหกรรมประจำปี พ.ศ. 2567 ร่วมด้วย นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายสมคิด ประดิษฐกำจรชัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ (กลุ่มงานการผลิต) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมแถลงข่าว โดยมี นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกภัทร วังสุวรรณ นายบรรจง สุกรีฑา นายศุภกิจ บุญศิริ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม นายพรยศ กลั่นกรอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นางดวงดาว ขาวเจริญ นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วม ณ ห้องประชุมชั้น 6 โซน 2 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมจัดงานมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2567 (The Prime Minister’s Industry Award 2024) ในวันที่ 18 ธันวาคมนี้ ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยได้รับเกียรติจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบรางวัลให้แก่สถานประกอบการที่มีความเป็นเลิศ ทั้งในด้านการเพิ่มผลผลิต คุณภาพ ความปลอดภัย การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและพลังงาน โลจิสติกส์และโซ่อุปทาน อุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต ความรับผิดชอบต่อสังคม เศรษฐกิจหมุนเวียน รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของประเทศ นอกจากนี้ ยังเป็นการเชิดชูเกียรติ และเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ประกอบการที่พัฒนานวัตกรรมสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมและชุมชนโดยรวมของประเทศ การพิจารณารางวัลอุตสาหกรรมประจำปี พ.ศ. 2567 จะมุ่งเน้นให้รางวัลกับสถานประกอบการที่มุ่งสู่การพัฒนาและปรับเปลี่ยนการประกอบการภาคอุตสาหกรรม ตามนโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรมเศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะดวก สะอาด โปร่งใส” ภายใต้แนวคิด “อุตสาหกรรมเศรษฐกิจ” ที่ “เติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชน” โดยเน้นมาตรการและกลไกมุ่งสู่ความสำเร็จ 4 มิติ ประกอบด้วย มิติที่ 1 ความสำเร็จทางธุรกิจเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมเศรษฐกิจ มิติที่ 2 ความอยู่ดีกับสังคมโดยรวมส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างสถานประกอบการ ชุมชน และสังคมให้อยู่ร่วมกันอย่างเป็นมิตร มิติที่ 3 ความลงตัวกับกติกาสากล ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมสู่อุตสาหกรรมสีเขียว เพื่อโอกาสทางธุรกิจมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนตอบโจทย์ไทยและประชาคมโลก และมิติที่ 4 การกระจายรายได้สู่ชุมชนที่ตั้ง (กระจายรายได้ และสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน) ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า สำหรับรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2567 (The Prime Minister’s Industry Award 2023) มีจำนวน 14 ประเภทรางวัล มีสถานประกอบการได้รับรางวัลจำนวน ทั้งสิ้น 41 รางวัล และสถานประกอบการที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม ได้แก่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด (โรงงานเกตเวย์) จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยสามารถดูรายชื่อผู้ได้รับรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ.2567 ได้ที่เว็บไซต์กระทรวงอุตสาหกรรม โดยแบ่งประเภทรางวัล ดังนี้ 1. รางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม (The Prime Minister’s Best Industry Award) จำนวน 1 รางวัล ซึ่งคัดเลือกจากสถานประกอบการที่เคยได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ประเภท และเป็นสถานประกอบการที่มีการพัฒนาศักยภาพขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีมาตรฐานการผลิตในระดับสากล 2. รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น (The Prime Minister’s Industry Award) จำนวน 23 รางวัล แบ่งเป็น 9 ประเภท ประกอบด้วย 1) ประเภทการเพิ่มผลผลิต จำนวน 7 รางวัล 2) ประเภทการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม จำนวน 1 รางวัล 3) ประเภทการบริหารความปลอดภัย จำนวน 1 รางวัล 4) ประเภทการบริหารงานคุณภาพ จำนวน 2 รางวัล 5) ประเภทการจัดการพลังงาน จำนวน 2 รางวัล 6) ประเภทการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน จำนวน 1 รางวัล 7) ประเภทอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต จำนวน 6 รางวัล ประเภทความรับผิดชอบต่อสังคม จำนวน 1 รางวัล และ 9) ประเภทเศรษฐกิจหมุนเวียน จำนวน 2 รางวัล 3. รางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น (The Prime Minister’s Small and Medium Industry Award) จำนวน 17 รางวัล แบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1) ประเภทการบริหารจัดการที่ดี จำนวน 3 รางวัล 2) ประเภทการพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์ จำนวน 7 รางวัล 3) ประเภทการจัดการเทคโนโลยีเชิงนวัตกรรม จำนวน 5 รางวัล และ 4) ประเภทบริหารธุรกิจสู่สากล จำนวน 2 รางวัล นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรม มอบหมายให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม เป็นหน่วยงานหลักในการจัดงานรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2567 โดยมีสถานประกอบการให้ความสนใจสมัครเข้ารับการคัดเลือก จำนวนทั้งสิ้น 162 ราย แบ่งเป็นรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม จำนวน 4 ราย รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น และรางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม ทั้ง 13 ประเภท รวม 158 ราย ซึ่งในปีผู้ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยมยังได้รับรางวัลพิเศษ ทูตอุตสาหกรรมภาคเอกชน หรือ MIND Ambassador ซึ่งรางวัลนี้เปรียบเสมือนตัวแทนของกระทรวงอุตสาหกรรมจากภาคเอกชนที่จะเป็นต้นแบบการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันภาคอุตสาหกรรมที่ดีและอยู่คู่กับชุมชนอย่างยั่งยืน รวมถึงเป็นหน่วยงานกลางในการประสานความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมและส่งเสริม สร้างภาพลักษณ์ที่ดีผ่านการดำเนินโครงการ/กิจกรรม ตลอดจนช่วยประชาสัมพันธ์ ข้อมูลข่าวสาร และบริการของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมอีกด้วย ทั้งนี้ การปฏิรูปอุตสาหกรรมเศรษฐกิจยุคใหม่นั้นส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยภาคอุตสาหกรรมจำเป็นต้องพัฒนายกระดับศักยภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ทัดเทียมกับนานาประเทศ โดยกิจกรรมหนึ่งที่สนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่อง คือ การจัดงานมอบรางวัลอุตสาหกรรม โดยกระทรวงอุตสาหกรรมมุ่งหวังให้เกิดการพัฒนาสถานประกอบการอย่างมีศักยภาพ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการผลิตของภาคอุตสาหกรรมและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางการค้า ซึ่งจะทำให้ “อุตสาหกรรมเศรษฐกิจ” ที่ “เติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชน” ต่อไป นายสมคิด ประดิษฐกำจรชัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ (กลุ่มงานการผลิต) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า โตโยต้ามีแนวทางการดำเนินบทบาทในฐานะทูตอุตสาหกรรมภาคเอกชน หรือ MIND Ambassador โดยนอกเหนือจากการเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่ดีแล้ว โตโยต้ายังมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างหนทางสู่การเป็นองค์กรแห่งการขับเคลื่อนในอนาคตที่ยั่งยืน ซึ่งแนวคิดขององค์กรแห่งการขับเคลื่อนนี้ จะต้องเป็นไปอย่างสมดุล ระหว่างการเจริญเติบโตทางธุรกิจกับการพัฒนาที่ยั่งยืน คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และสังคม หมุดหมายปลายทางด้านสิ่งแวดล้อมที่ตั้งเป้าไว้คือการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนด้านสังคม โตโยต้ายังคงมุ่งมั่นที่จะมอบความสุขและรอยยิ้มกับคนไทยทุกคน
16 ม.ค. 2568
ขยายเวลาเปิดรับสมัครเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานสนุบสนุนด้านงานบริหารทั่วไป จำนวน 1 อัตรา
จากเดิมปิดรับสมัครวันที่ 15 มกราคม 2568 เปลี่บนเป็นปิดรับสมัครวันที่ 22 มกราคม 2568
16 ม.ค. 2568
ปลัดฯ ณัฐพล เฝ้ารับเสด็จกรมสมเด็จพระเทพฯ เสด็จฯ เปิดงานกาชาด ปี 67 กระทรวงอุตฯ น้อมรวมใจจัดงานใหญ่ พร้อมมอบโชคลุ้นรางวัลสร้างความสุขให้ประชาชนตลอด 12 วัน
กรุงเทพฯ 11 ธันวาคม 2567 - ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เฝ้ารับเสด็จ ณ พลับพลาพิธี ห้องสมุดประชาชน สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงานกาชาดประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด “ทศมราชา 72 พรรษา ถวายพระพร” โดยมี นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานกาชาดประจำปี 2567 คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม เหรัญญิกสภากาชาดไทย พร้อมด้วย ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสภากาชาดไทย และคณะกรรมการอำนวยการจัดงานกาชาด เฝ้าฯ รับเสด็จด้วย งานกาชาด 2567 ภายใต้แนวคิด "ทศมราชา 72 พรรษา ถวายพระพร" เนื่องในโอกาสมหามงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์พระบรมราชูปถัมภกสภากาชาดไทย เจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 รวมถึงเผยแพร่ภารกิจของสภากาชาดไทย ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจหลายรูปแบบ มีการออกร้านกาชาดและบูธกิจกรรมมากมายจากทุกภาคส่วน อาทิ หน่วยงานภาครัฐ องค์กรภาคธุรกิจเอกชน สถาบันการศึกษา มูลนิธิ สมาคม และสโมสรต่าง ๆ โดยกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เข้าร่วมออกร้านกระทรวงอุตสาหกรรมในงานกาชาด ประจำปี 2567 ในแนวคิด "อุตสาหกรรม รวมใจภักดิ์ 72 พรรษา ทศมราชา" เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ แบ่งการจัดกิจกรรมเป็น 2 โซน ได้แก่ โซนนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ โดยจะมีการเพิ่มเติมการจัดทำบอร์ดนิทรรศการประวัติความเป็นมาของส่วนราชการในสังกัด และโซนกิจกรรม เกมส์จับฉลากแทงหลอด ลุ้นรับรางวัลมากมายพร้อมกิจกรรมบนเวทีและความบันเทิงในรูปแบบต่างๆ ตลอดจนการจัดหารายได้โดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทย แล้วพบกันที่ร้านกาชาดกระทรวงอุตสาหกรรม โซน 3 บูธ 3.4 ฝั่งถนนพระราม 4 บริเวณประตู 3 (ใกล้น้ำพุ) ในงานกาชาดประจำปี 2567 ตั้งแต่วันนี้ - 22 ธันวาคม 2567 ณ สวนลุมพินี ซึ่งประชาชนสามารถเข้าร่วมงานได้ฟรี ตั้งแต่เวลา 11.00 - 22.00 น. และวันสุดท้ายปิดเวลา 23.00 น. โดยภายในงานดังกล่าวมีผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพียง ได้แก่ นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและโฆษกประจํากระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกภัทร วังสุวรรณ นายบรรจง สุกรีฑา นายศุภกิจ บุญศิริ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายเดชา จาตุธนานันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายอดิทัต วะสีนนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ นางดวงดาว ขาวเจริญ นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมงานดังกล่าวด้วย
15 ม.ค. 2568
เชิญสมัครเข้าร่วมกิจกรรม การพัฒนาโซ่คุณค่าอุตสาหกรรมด้วยระบบโซ่ความเย็นและบรรจุภัณฑ์
ขอเชิญสถานประกอบการสมัครเข้าร่วมกิจกรรม การพัฒนาโซ่คุณค่าอุตสาหกรรมด้วยระบบโซ่ความเย็นและบรรจุภัณฑ์ (Cold Chain and Proper Packaging) ดำเนินการโดย : กองโลจิสติกส์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เกษตรเเปรรูป อาหารเเปรรูป เครื่องดื่ม เวชภัณฑ์และเครื่องสำอาง หรืออุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Cold Chain สิ่งที่ผู้ประกอบการจะได้รับ การวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาเชิงลึก โดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ Cold Chain และบรรจุภัณฑ์ การวิเคราะห์ ทดสอบ และ/หรือพัฒนาบรรจุภัณฑ์ต้นแบบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพหรือลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ การอบรมให้ความรู้ ในเรื่องเทคนิคการบริหารจัดการโลจิสติกส์และบรรจุภัณฑ์ในระบบ Cold Chain การสร้างความตระหนักและพัฒนาศักยภาพธุรกิจตามแนวทาง MIND 4 มิติ และ Carbon Footprint การันตีผลการเพิ่มประสิทธิภาพหรือลดต้นทุนโลจิสติกส์ ไม่น้อยกว่า 15% สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ - 28 ม.ค. 68 และปิดรับสมัครเมื่อครบตามจำนวน ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ดร.ประไพศรี ไม้สนธิ์ (08 6775 1235) กองโลจิสติกส์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คุณชนสรณ์ ทับทิมทอง (08 8268 1573)
15 ม.ค. 2568
"ดีพร้อม" จับมือ "บสย." เตรียมยกเครื่องระบบการค้ำประกันสินเชื่อ เพิ่มบทบาทการพัฒนาและส่งเสริม ตามนโยบาย “เซฟ” SMEs ของ รมต.เอกนัฏ ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน หนุนองค์ความรู้เพื่อเพิ่มศักยภาพการทำธุรกิจแก่วิสาหกิจให้มีธรรมาภิบาลและประสิทธิภาพ
กรุงเทพฯ 3 ธันวาคม 2567 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้ให้เกียรติเป็นประธานในการประชุมหารือการบูรณาการความร่วมมือ กับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) นำโดย นายกิตติพงษ์ บุรณศิริ รองผู้จัดการทั่วไป สายงานกลยุทธ์และผลิตภัณฑ์ และคณะ ร่วมด้วย นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) ในการประชุมดังกล่าว ได้มีการหารือเกี่ยวกับโครงการ "ติดปีก SMEs หลักทรัพย์ไม่มี ดีพร้อมค้ำประกันให้" ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมให้เข้าถึงหลักประกันและแหล่งเงินทุน ของทั้ง 6 หน่วยงาน ได้แก่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) และธนาคารออมสิน เพื่อบูรณาการความร่วมมือในการสนับสนุนและช่วยเหลือ SMEs ที่มีศักยภาพ แต่ขาดหลักประกันหรือหลักประกันไม่เพียงพอ ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน พร้อมทั้งให้คำปรึกษาแนะนำในด้านการบริหารจัดการธุรกิจ ซึ่งการดำเนินงานที่ผ่านมามีผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก โดยอยู่ในระหว่างการให้คำปรึกษาแนะนำและปรับปรุงรายงานทางการเงินโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทำให้ยังมีผู้ประกอบการที่พร้อมรับสิทธิไม่มากนัก ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ร่วมกันทบทวนกรอบความร่วมมือ และหารือแนวทางการดำเนินโครงการดังกล่าว ให้มีความชัดเจนและสอดรับกับบทบาทในการส่งเสริมผู้ประกอบการในภาพรวมของกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มีการสนับสนุนแหล่งเงินทุนของภาครัฐ ผ่านการดำเนินงานของเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการส่งเสริมอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมไทย และกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ซึ่งกำลังจะมีการปรับปรุงบทบาทของกองทุนเพื่อเปลี่ยนผ่านตามนโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส” ของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อให้ความร่วมมือภายใต้บันทึกข้อตกลงดังกล่าวสามารถช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาของผู้ประกอบการได้อย่างตรงประเด็นมากขึ้น
15 ม.ค. 2568
"ปลัดณัฐพล" มอบหมาย "ดีพร้อม" จับมือ "สอจ." บูรณาการ DIPROM Center 6 นำทีม MIND ร่วมมือ "สู้ เซฟ สร้าง ปฏิรูปอุตสาหกรรมไทย ด้วยหัวและใจ"
จ.นครราชสีมา 8 ธันวาคม 2567 - ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นำทีมผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 6 พร้อมมอบนโยบายกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมด้วย นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรมเข้าร่วม ณ ห้องประชุม ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 6 ตำบลสูงเนิน อำเภอสูงเนิน การลงพื้นที่ในครั้งนี้ ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในปัจจุบันเพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบาย "ปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส” ของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โดยการร่วม "สู้ เซฟ สร้าง ปฏิรูปอุตสาหกรรมไทย ด้วยหัวและใจ" และนโยบาย อก. "MIND" ปฏิรูปอุตสาหกรรมไทยสู่อุตสาหกรรมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยั่งยืน ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) จึงต้องดำเนินการบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานในสังกัด อก. ในเชิงพื้นที่ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยอาศัยกลไกของสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.) ร่วมกับ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ในการร่วมกันยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ ดีพร้อม ได้ร่วมบูรณาการกับ สอจ. ผ่านการดำเนินโครงการต่าง ๆ ในภาพรวม โดยมีเป้าหมายในภาพรวมกว่า 2,180 คน วงเงินรวม 9.15 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการและกิจกรรม ดังนี้ 1) ยกระดับสินค้าเกษตรสู่เกษตรอุตสาหกรรม 2) ยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจชุมชน 3) เร่งการจัดตั้งและขยายธุรกิจของผู้ประกอบการอัจฉริยะ 4) เสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสู่การแข่งขันเศรษฐกิจวิถีใหม่ และ 5) สนับสนุนและพัฒนาปัจจัยแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวประกอบด้วยกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การฝึกอบรมพัฒนาความรู้และให้ข้อมูล อาทิ พัฒนาทักษะด้านดิจิทัลและการตลาดออนไลน์ ส่งเสริมธุรกิจให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยแนวคิด BCG/ Net Zero อีกทั้ง การให้คำปรึกษาแนะนำเบื้องต้นในการดำเนินงาน รวมถึงใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ (ITC) การส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพสถานประกอบการ การพัฒนาและเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์หรือบริการด้วยความคิดสร้างสรรค์/อัตลักษณ์เชิงพื้นที่ หรือ Soft Power และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีมาตรฐาน รวมทั้งการส่งเสริมการตลาดผ่านการจัดงานอุตสาหกรรมแฟร์ในพื้นที่ต่าง ๆ เป็นต้น ในโอกาสนี้ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมได้มอบนโยบายแก่ผู้บริหาร อก.ในโอกาสรับตำแหน่งใหม่ ประกอบด้วย อุตสาหกรรมจังหวัด และผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาค โดยให้ทำงานอย่างเต็มศักยภาพและยึดนโยบาย อก. "MIND" ปฏิรูปอุตสาหกรรมไทยสู่อุตสาหกรรมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยั่งยืน พร้อมทั้งใช้ "หัว" และ "ใจ" ปั้นอุตสาหกรรมคู่ชุมชน ยึดมั่นความถูกต้อง โปร่งใส สุจริตในการทำงานด้วย
15 ม.ค. 2568
"???? ของขวัญปีใหม่ ดีพร้อมให้อะไร“ ”อธิบดีณัฏฐิญา" ชงมาตรการของขวัญปีใหม่ เสนอ รมว.เอกนัฏ รวมแพ็คเกจกระทรวงเพิ่มโอกาส เสริมแกร่ง กระจายรายได้ สำหรับประชาชนและผู้ประกอบการ ปี 68
กรุงเทพฯ 4 ธันวาคม 2567 – นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในการประชุมผู้บริหารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมด้วย นางดวงดาว ขาวเจริญ นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ดีพร้อม (DIPROM) ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM Headquarter) และในรูปแบบออนไลน์ผ่านระบบ Zoom Meeting การประชุมดังกล่าว ได้มีการรายงานความคืบหน้าผลการดำเนินงาน ประกอบไปด้วย การมอบสินเชื่อฮาลาล พิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2567 และกิจกรรมเปิดตัวโครงการซอฟต์พาวเวอร์สาขาแฟชั่นและสาขาอาหาร รวมไปถึงวาระเร่งด่วนในการกำหนดแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 และได้มอบนโยบายให้แต่ละหน่วยงานวางแผนจัดทำโครงการเพื่อเสนอของบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ภายใต้การพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมและวิสาหกิจไทยให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคเศรษฐกิจใหม่ ทั้งนี้ ดีพร้อมได้มีการเตรียมมาตรการของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2568 สำหรับประชาชนและผู้ประกอบการ ประกอบไปด้วย มาตรการเสริมแกร่งเพิ่มความรู้ Upskills / Reskills ผ่านโครงการด้าน Soft Power มาตรการเติมทุนต่อยอดธุรกิจ ผ่านการมอบสินเชื่อพิเศษเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ และมาตรการสิทธิพิเศษสำหรับผู้ประกอบการ ผ่านการให้บริการออกแบบผลิตภัณฑ์ฟรี การให้บริการเครื่องจักรเพื่อแปรรูปผลิตภัณฑ์ภายใต้ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมดีพร้อม (DIPROM ITC) และบริการดีพร้อมแคร์ ให้บริการซอฟต์แวร์ฟรี 6 เดือนสำหรับ SMEs เช่น เครื่องมือสร้างเว็บไซต์อัจฉริยะพร้อมข้อมูลสนับสนุน และโปรแกรมบัญชีออนไลน์ต่าง ๆ เป็นต้น เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส” ของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
15 ม.ค. 2568