Category
น้ำพริกกลุ่มแม่บ้านแพรกษา พร้อมแข่งตลาดนานาชาติ
ที่มาของกลุ่มแม่บ้านแพรกษา หมู่ที่ ๗ คุณสมน้อย ศรีสมวงศ์ ประธานกลุ่มเล่าว่า “ความที่หลายครอบครัวในตำบลแพรกษาประกอบอาชีพเลี้ยงปลาสลิดขาย และมักเหลือปลาขนาดเล็กที่ไม่สามารถนำไปขายได้ ปีพ. ศ. ๒๕๔๗ แม่บ้านหมู่ที่ ๗ ตำบลแพรกษา ประมาณ ๑๐ครัวเรือน จึงรวมตัวกันนำปลาสลิดขนาดเล็กมาแปรรูปเป็นปลาแห้งและนำบางส่วนไปประกอบเป็นน้ำพริกปลาสลิดรสชาติต่าง ๆ จัดจำหน่ายในนาม “น้ำพริกแม่น้อย” มีจุดขายที่ความสดใหม่ของผลิตภัณฑ์และรสชาติอร่อย นับเป็นอาชีพเสริมที่สร้างรายได้เป็นอย่างดี” สูตรน้ำพริกของกลุ่มไม่เป็นรองใคร แต่กลุ่มขาดความรู้เรื่องการทำบัญชี ตลอดจนความรู้เรื่องการตลาดและการผลิตที่มีประสิทธิภาพปี ๒๕๕๕ กลุ่มจึงเข้าร่วม “กิจกรรมพัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการวิสาหกิจชุมชน (Community Industries Management Efficiency Development : CIMED)” ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ซึ่งหลังจากเข้าร่วมกิจกรรมไม่กี่เดือน รายได้ของกลุ่มที่ได้รับแต่เดิมเกือบ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ต่อเดือนได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ ๑๐ “เรามีการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์มากขึ้น เช่น มีการทำนามบัตรไปแจกลูกค้าในงาน OTOP ที่เมืองทอง เพื่อลูกค้าจะได้รู้จักเรามากขึ้น สินค้าก็ขายดีขึ้น มีลูกค้าโทรสั่งอยู่เรื่อย ๆ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลลูกค้ามักจะซื้อเป็นของฝาก เพราะเราทำตามคำแนะนำจากทางกรมฯใช้แพคเกจจิ้งเป็นแบบสุญญากาศ เพื่อให้สามารถเก็บไว้ทานได้นานหลายเดือน” ในการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี ๒๕๕๘ คุณสมน้อยให้ข้อคิดว่า “ถ้าเราจะไปสู่อาเซียน เราต้องคำนึงถึงหลายเรื่อง ปลาก็ต้องมีคุณภาพส่งออกได้ แพคเกจจิ้งก็ต้องดี สต็อกสินค้าต้องมีพร้อมขายตลอดเวลา รวมทั้งต้องแข่งขันกับตัวเอง มีการพัฒนาสินค้าให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้ลูกค้าติดใจ ไม่ใช่ซื้อครั้งเดียวแล้วไม่มีการสั่งซื้อต่อ” ซึ่งคติการทำงานนี้ใช้ได้ดี ไม่ว่าจะเป็น ๑๐ ปีที่แล้วที่เพิ่งเริ่มก่อตั้งกลุ่มหรืออีก ๒ ปีข้างหน้าที่ AEC จะมาถึง คุณสมน้อย ศรีสมวงศ์ ประธานกลุ่มแม่บ้านแพรกษา หมู่ที่ ๗ ๒๑ บ้านสุดใจ ม. ๗ สุดใจ พุทธรักษา ต. แพรกษา อ. เมืองสมุทรปราการ จ. สมุทรปราการ ๑๐๒๘๐ โทรศัพท์ : ๐ ๒๗๐๓ ๖๕๖๖ ที่มา : รายงานประจำปี 2555 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
31 ม.ค. 2012
ไทยเทครับเบอร์ คอร์ปอเรชั่นขยายการลงทุนในอาเซียน
บริษัท ไทยเทครับเบอร์ จำกัด เป็นบริษัทผู้ผลิตยางแท่งมาตรฐาน STR (Standard Thai Rubber) โดยร้อยละ 95 เป็นการส่งตลาดประเทศ และจากความต้องการใช้ยางธรรมชาติอย่างต่อเนื่องของประเทศยักษ์ใหญ่อย่างจีน กอปรกับเล็งเห็นคุณภาพของยางธรรมชาติและศักยภาพของประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยเฉพาะจังหวัดปัตตานี ในปี 2549 บริษัท ไทยเทครับเบอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด สาขาปัตตานี จึงดำเนินการจัดตั้งฐานการผลิตเป็นสาขาที่ 3 ต่อจากสาขาที่จังหวัดสงขลาและตรัง อย่างไรก็ดี การอยู่ในพื้นที่ชายแดน บริษัทจึงประสบปัญหาขาดแคลนนักวิชาการที่จะให้ความรู้ในเรื่องการพัฒนาศักยภาพการผลิต ปี 2555 บริษัทไทยเทครับเบอร์ฯ จึงร่วม "โครงการพัฒนาศักยภาพโรงงานผลิตยางในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้" ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และพบว่าปัญหาหลักๆ คือ ต้นทุนพลังงานไฟฟ้าสูง เวลาหยุดเครื่องจักร (downtime) ในแต่ละเดือนค่อนข้างสูงและปัญหาเรื่องกระบวนการผลิตที่ขาดประสิทธิภาพ แม้ด้านหนึ่ง คุณศุภเดช อ่องสกุล ผู้จัดการ บริษัท ไทยเทครับเบอร์ฯ สาขาปัตตานี มองว่าปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องปกติของโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป "แต่สำหรับบุคลากรของไทยเทครับเบอร์ ทุกคนมีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการที่ทางกรมฯ ส่งมาอบรมและให้คำปรึกษาเป็นอย่างมาก ซึ่งหลังผ่านโครงการดังกล่าว ตัวเลขที่ตรวจวัดทุกตัวมีการเพิ่มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น" คุณศุภเดชแสดงวิสัยทัศน์ว่า แม้ว่าอาเซียนจะเป็นแหล่งผลิตยางพาราของโลก แต่ปัญหาปริมาณแรงงานในภาคกรผลิตและจำนวนวัตถุดิบที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ส่งผลให้การพัฒนาธุรกิจด้านนี้ของประเทศไทยใกล้ถึงขีดจำกัด ในปีที่ผ่านมา บริษัท ไทยเทครับเบอร์ฯ จึงไปตั้งโรงงานที่ประเทศอินโดนีเซีย และมีแผนจะขยายกิจการไปสู่ประเทศอื่นๆ ในอาเซียนต่อไป "ผมมองว่าต่อไปเมืองไทยคงไม่ได้ร่ำรวยเฉพาะจากธุรกิจที่อยู่ในประเทศ แต่คงไปรวยจากการลงทุนในต่างประเทศเหมือนญี่ปุ่นที่ไปลงทุนทั่วโลกแล้วส่งกำไรกลับบ้านเกิด ส่วนคนญี่ปุ่นก็ได้มาทำงานที่เมืองไทย ผมว่าในการสร้างงานของเมืองไทยเราต้องไปสร้างงานต่างประเทศ ต้องใช้ศักยภาพที่มีข้ามขั้นภายในประเทศไปสู่ระดับประเทศให้ได้ คุณศุภเดช อ่องสกุล ผู้จัดการ บริษัท ไทยเทครับเบอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด 6 ม.2 ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี 94170 โทรศัพท์ : 074 0302 400-11 ที่มา : รายงานประจำปี 2555 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
31 ม.ค. 2012
คุณน้ำนิตย์ ตันติศิริวัฒน์ ที่ปรึกษามืออาชีพช่วยไขปัญหา SMEs
ความรู้แขนงหนึ่ง สามารถต่อยอดไปยังความรู้แขนงอื่น ๆ ได้ ซึ่งการรู้รอบ – รู้ลึกนั้น เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการบริหารกิจการในยุคที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน คุณน้ำนิตย์ ตันติศิริวัฒน์ มีพื้นฐานความรู้ด้านบัญชีและบริหารการเงิน ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการย้อนสำรวจการดำเนินงาน พฤติกรรมและความเคลื่อนไหวขององค์กร ซึ่งที่ผ่านมา คุณน้ำนิตย์ได้ใช้ความรู้ดังกล่าวช่วยกิจการผลิตอะไหล่ยานยนต์ของครอบครัว ตลอดจนกิจการส่วนตัวของตนเองอย่างมีประสิทธิผล ภายหลังคุณน้ำนิตย์ได้นำประสบการณ์ที่สั่งสมมา ก้าวเข้าสู่อาชีพที่ปรึกษาอิสระ ให้คำปรึกษาการเงินและบัญชีกับองค์กรต่าง ๆ โดยให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาอย่างเชื่อมโยงรอบด้าน ทั้งด้านการพัฒนาบุคลากร การตลาด การเงิน “การวิเคราะห์งบการเงิน ช่วยให้เห็น performance ขององค์กร สามารถเชื่อมโยงให้เห็นปัญหาต่าง ๆ เช่น ทำไมปีนี้ค่า HR สูง แต่ได้ productivity เท่าเดิม ก็ย้อนไปดูพบว่าอัตราคนเข้าออกมาก เสียเวลากับการเรียนรู้งานใหม่ คือ ในฐานะที่ปรึกษา จะพยายามแนะนำให้ SMEs มองทุกสิ่งรอบด้าน ยิ่งเข้าสู่ยุคของ AEC ผู้ประกอบการ SMEs ก็ยิ่งต้องมีความรู้ทั้งเชิงกว้างและเชิงลึกยิ่งขึ้น ทั้งวัฒนธรรม กฎหมาย ของประเทศเพื่อนบ้าน” ในฐานะผู้ให้คำปรึกษา คุณน้ำนิตย์จึงต้องหมั่นพัฒนาตนเองให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลกเช่นกัน เมื่อปี ๒๕๕๓ คุณน้ำนิตย์จึงเข้ารับการอบรมเป็นผู้ประกอบการ Service Provider ใน “กิจกรรมสร้างและพัฒนาผู้ให้บริการธุรกิจอุตสาหกรรม” ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มพูนความรู้รอบด้านทั้งเทคนิควิศวการ การจัดการ การตลาด การเงิน การบัญชี ตลอดจนทักษะและจรรยาบรรณการให้คำปรึกษา คำแนะนำปรึกษาที่ดีสามารถผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ และผู้ประกอบการที่พร้อมปรับตัว เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ คือผู้มีศักยภาพในการอยู่รอด คุณน้ำนิตย์ ตันติศิริวัฒน์ ๑๐๓/๔ ซอยวีเหลี่ยม ๒ ถ. เพชรเกษม แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพฯ ๑๐๑๖๐ โทรศัพท์ : ๐๘ ๙๑๑๑ ๔๒๔๙ อีเมล : namnitt@yahoo.com ที่มา : รายงานประจำปี 2555 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
31 ม.ค. 2012
เอ็น.ซี.อาร์. รับเบอร์ อินดัสตรี้ จัดการทุกวิกฤตและโอกาสด้วย LEAN
คุณประเสริฐ บำรุงชัยชนะ ผู้อำนวยการฝ่ายโรงงาน บริษัท เอ็น.ซี.อาร์. รับเบอร์ อินดัสตรี้ จ????ากัด ผู้ประกอบการธุรกิจยางซึ่งเป็นทั้งผู้ผลิต ผู้จำหน่าย และผู้ส่งออกทั้งในและต่างประเทศ ให้ความเห็นว่าการที่ตลาด AEC รวมเป็นตลาดเดียวกันจะทำให้เกิดการแข่งขันสูงขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสในการขยายตลาด ซึ่งนอกจากแรงกดดันในการแข่งขันจากภายนอกคือกลุ่มประเทศอาเซียนแล้ว ผู้ประกอบการยังพบปัญหาภายใน เช่น วัตถุดิบและค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำราคาเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น การนำระบบการบริหารจัดการที่ดีมาใช้พัฒนาองค์กรจึงเป็นสิ่งสำคัญ และจากการเข้าร่วม “กิจกรรมให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกแก่ SMEs ด้วยระบบ LEAN เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต” กับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นภายใน บริษัท เอ็น.ซี.อาร์. รับเบอร์อินดัสตรี้ อย่างชัดเจน “วิธีนี้ถูกจริตกับเรา เพราะ LEAN เน้นแก้ปัญหาในจุดใหญ่ ๆ แต่ขณะเดียวกันก็มองภาพรวมด้วยว่าอะไรเป็นหัวใจ อะไรที่จำเป็น LEAN ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้จริง ๆ ช่วยฝึกฝนแรงงานมีฝีมือ ช่วยให้พนักงานอยู่กับเรานานขึ้น รวมถึงเรื่องของการจัด Supply และการ จัดซื้อวัตถุดิบในราคาที่ถูก เราพบว่าระบบ LEAN เป็นคำตอบที่ใช่ โชคดีว่าหลังจากที่มีการปรับค่าแรง พนักงานก็ยินดีให้ความร่วมมือกับองค์กรไม่ปฏิเสธการทำงานมากขึ้น ทำงานเร็วขึ้น เพราะพวกเขาทราบดีว่าไม่เช่นนั้น องค์กรเราก็อยู่ไม่ได้ ต้องถือโอกาสนี้ขอบคุณพนักงานที่ให้ความร่วมมือกับองค์กรเป็นอย่างดี ยินยอมที่จะเปลี่ยนแปลงโดยไม่มีปัญหาอะไร” การบริหารจัดการธุรกิจอย่างรวดเร็ว กระชับ มีประสิทธิผล และต้นทุนต่ำนับเป็นความได้เปรียบในการแข่งขันไม่ว่ายุคสมัยใด หรือเศรษฐกิจจะอยู่ในภาวการณ์ใด สำหรับ AEC ที่จะมีผลในอีก ๒ ปีข้างหน้า LEAN จึงเป็นเครื่องมือที่ดีเครื่องมือหนึ่งสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการยกระดับการบริหารและการจัดการภายในองค์กร คุณประเสริฐ บำรุงชัยชนะ ผู้อำนวยการฝ่ายโรงงาน บริษัท เอ็น.ซี.อาร์. รับเบอร์ อินดัสตรี้ จำกัด ๖๙, ๗๑-๗๓ ถ. บำรุงรัฐ แขวง/เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ ๑๐๑๐๐ โทรศัพท์ : ๐ ๒๒๒๕ ๗๖๕๖-๗ เว็บไซต์ : www.ncr-rubber.com ที่มา : รายงานประจำปี 2555 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
31 ม.ค. 2012
ก้านเห็ดหอมปรุงรส i hed มุ่งมั่นพัฒนา สู่ของฝากชั้นนำ
i hed เริ่มต้นจากการเป็นเมนูอร่อยประจำบ้าน ผลิตจากก้านเห็ดหอมปรุงรสคุณภาพดี หมักปรุงรสและทอดตามหลักสุขอนามัยและหลังจากมีโอกาสเข้าร่วม “กิจกรรมเสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่ (New Entrepreneur Creation: NEC)” ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเมื่อ ๕ ปีก่อน คุณณัชชา นันทกาญจน์ จึงเห็นโอกาสในการพัฒนาก้านเห็ดหอมปรุงรสให้กลายเป็นธุรกิจทำเงิน จนกระทั่งในปี ๒๕๕๕ เธอได้จดทะเบียนแบรนด์ i hed และตัดสินใจลาออกจากงานประจำ โดยผันตัวเองมาเป็นสถาปนิกอิสระเพื่อจะได้มีเวลาในการเริ่มต้นธุรกิจอย่างจริงจัง ด้วยมีประสบการณ์ธุรกิจน้อย จึงหมั่นแสวงหาความรู้อย่างต่อเนื่องหนึ่งในนั้นคือการเข้าร่วมเวิร์กช็อปเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภค ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ทำให้ได้ความรู้ด้านการพัฒนากระบวนการผลิตที่ช่วยยืดอายุการเก็บสินค้าให้ยาวนานขึ้น การปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยคงสภาพสินค้าหลังการผลิตและยังสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้ดูทันสมัย ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ i hed ยังเป็นเพียงธุรกิจในครัวเรือน ที่จำหน่ายในชุมชนเล็ก ๆ เพราะคุณณัชชาต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์จนมั่นใจว่าสามารถรับมือกับตลาดผู้บริโภคในวงกว้าง แต่เมื่อถามถึงการเตรียมความพร้อมรับมือกับยุค AEC เธอกล่าวอย่างมีความหวังว่า “เมื่อครั้งที่ได้เข้าร่วมโครงการที่ NEC ร่วมมือกับศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) มีผู้ให้แนวคิดว่าเราสามารถสร้างสินค้าให้เป็นเหมือนสินค้า OTOP คือมีสินค้าบางจำพวกที่ชาวต่างชาติต้องซื้อติดกลับไปเป็นของฝาก ไม่ว่าจะเป็นของเล่นอาหาร หรือของที่ระลึกอะไรต่าง ๆ แต่ก็คงจะดีถ้าเราสามารถสร้างแบรนด์ i hed ให้กลายเป็นสินค้าที่นักท่องเที่ยวที่มากรุงเทพฯ รู้สึกว่านี่คือผลิตภัณฑ์ที่ควรซื้อติดไม้ติดมือเป็นของที่ระลึก” คุณณัชชา นันทกาญจน์ เจ้าของกิจการ Healthy Republic ๓๐๑/๑๘๘ ม. ๖ ซ. ประชาชื่น แยก ๑-๒-๑๗ ถ. ประชาชื่น แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐ โทรศัพท์ : ๐๘ ๕๙๒๐ ๕๕๓๐ อีเมล : marketing.ihed@gmail.com ที่มา : รายงานประจำปี 2555 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
31 ม.ค. 2012
บริษัท ชัยจินดาซีฟู้ด จำกัดความรู้บริหารเชิงลึกผสานความรู้พื้นบ้าน
คุณวันชัย โพธิเพียรทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยจินดาซีฟู้ด จำกัด เป็นหนึ่งใน SMEs ที่สร้างกิจการบนศักยภาพพื้นฐานของจังหวัดสมุทรสาครที่เป็นเมืองท่าติดชายทะเล โดยดำเนินธุรกิจผลิตอาหารแห้งและการทำประมงในแบบฉบับพื้นบ้านมาร่วม ๒๐ ปีสามารถนำพากิจการเติบใหญ่ มีรายได้ต่อปีประมาณ ๑๐๐ ล้านบาท แต่คุณวันชัยตระหนักดีว่า ความรู้และประสบการณ์จากการปฏิบัติและการบริหารแบบกิจการครอบครัวไม่เพียงพอต่อการเปิดเสรีการค้าอาเซียนที่จะเกิดขึ้น ตลอดจนสภาพเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและเงื่อนไขการค้าที่ปรับเปลี่ยนไปตลอดเวลา ความรู้เชิงลึกในการบริหารจัดการทั้งด้านการเงิน การค้า การลงทุน การบริหารบุคคล ความรู้ด้านกฎหมาย ความรู้ด้านการตลาดและอีกมากมายจะเป็นสิ่งจำเป็นในการนำพาองค์กรให้ดำเนินไปอย่างมีระเบียบแบบแผน ซึ่งหลังจากคุณวันชัยได้เข้าร่วมอบรมการพัฒนาการสร้างภาวะผู้นำรุ่นที่ ๘ “กิจกรรมพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม (คพอ.)” ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้นำความรู้มาใช้ในการพัฒนาองค์กร และถ่ายทอดความรู้สู่พนักงาน เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างมีส่วนร่วม “ในการบริหารกิจการมีปัญหาเกิดขึ้นตลอด เวลา ไม่ต้องดูไกลระดับอาเซียน แค่ในไทยเองก็มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เช่น ค่าแรงขึ้น ๓๐๐ บาท ต้องคิด ต้องหาวิธีการทำอย่างไรให้ดำเนินกิจการต่อไปได้โดยต้นทุนไม่มากขึ้น ความรู้ที่ได้จาก คพอ.เป็นความรู้ที่สามารถปฏิบัติและแก้ไขปัญหาได้จริง และสิ่งสำคัญผมได้มิตรภาพมากมาย เป็นห้องเรียนธุรกิจที่ได้แลกเปลี่ยนวิธีคิด วิธีบริหาร ซึ่งสำคัญมาก กิจการ SMEs จะอยู่รอดและเดินหน้าได้ก็ต่อเมื่อสามารถจัดการกับปัญหา” เมื่อเปิดการค้าเสรีอาเซียนในปี ๒๕๕๘ จังหวัดสมุทรสาครจะมีศักยภาพเติบโตอีกมาก พื้นที่ติดชายฝั่งทะเลเป็นประตูเปิดรับวัตถุดิบอาหารทะเลและแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านซึ่งเป็นปัจจัยการผลิตสำคัญ แต่ก็เป็นประตูสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ทั้งในและต่างประเทศด้วยเช่นกัน คุณวันชัย โพธิเพียรทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยจินดาฟู้ด จำกัด ๓๕/๓๙ หมู่ ๔ ต. โคกคาม อ. เมือง จ. สมุทรสาคร ๗๔๐๐๐ โทรศัพท์ : ๐๓๔ ๘๔๐ ๓๕๒-๓ อีเมล : dryfood@hotmail.com ที่มา : รายงานประจำปี 2555 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
31 ม.ค. 2012
ชิตา ออร์แกนิคฟู้ด เพิ่มรสชาติ ปราศจากสารพิษ กิจกรรมพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปครบวงจร
บริษัท ชิตา ออร์แกนิคฟู้ด จำกัด ก่อตั้งเมื่อปี ๒๕๕๔ มุ่งผลิตวัตถุดิบเกษตรออร์แกนิกเพื่อผลิตเครื่องปรุงอาหารไทย อาทิ น้ำจิ้มไก่ ซอสพริก และน้ำจิ้มเครื่องเคียงต่าง ๆ ซึ่งจัดว่าเป็นตลาดใหม่ เนื่องจากปัจจุบัน วัตถุดิบส่วนใหญ่ใช้สารเคมีและยาฆ่าแมลงจำนวนมาก โดยได้สร้างไร่ชิตาไว้เป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบ ส่วนโนว์ฮาวการผลิตก็รับถ่ายทอดจากบริษัทแม่คือ บริษัท เอสแอนด์เจ โปรดักท์ จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรในจังหวัดลำพูน ในปีที่ผ่านมา บริษัท ชิตาฯ ได้เข้าร่วม กิจกรรมพัฒนาเชื่อมโยงนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าสู่เชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “กิจกรรมพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปครบวงจร” กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมก่อให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เช่น น้ำสลัดชนิดข้นและใสที่ใช้ส่วนผสมน้ำส้มสายชูหมักจากสับปะรดออร์แกนิค มีสารต้านอนุมูลอิสระ มีเส้นใยอาหารสูงและเอ็นไซม์ที่ช่วยย่อยโปรตีนจากธรรมชาติในขณะเดียวกันก็มีรสชาติกลมกล่อมและสีสันสวยงาม นอกจากนั้นยังพัฒนาผลิตภัณฑ์อินทรีย์ใหม่ ๆ อีกหลายชนิด ซึ่งเป็นที่ต้องการของกลุ่มรักสุขภาพที่มีกำลังซื้อทั้งในและต่างประเทศ คุณสมเกียรติโอวรารินท์ ผู้บริหารด้านการตลาด บริษัท ชิตา ออร์แกนิคฟู้ด เห็นว่า มีโอกาสเติบโตสูงมาก “เราพุ่งเป้าไปที่กลุ่มลูกค้าผู้มีกำลังซื้อสูงในประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ซึ่งมีการศึกษาคุณภาพและประโยชน์ของสินค้าประเภทนี้กันอยู่แล้ว นอกจากนั้นยังมีโอกาสขยายพื้นที่ผลผลิตเกษตรอินทรีย์ในประเทศกลุ่ม AEC ไม่ว่าในลาวหรือในเวียดนาม ซึ่งขณะนี้มีอยู่ ๑-๒ ราย ที่สนใจที่จะมาร่วมเป็นแหล่งปลูกพืชอินทรีย์ให้กับทางบริษัท” ขนาดตลาดที่ขยายใหญ่ขึ้นจากข้อตกลง AEC แนวโน้มความนิยมในผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ล้วนเป็นวัตถุดิบชั้นดีที่จะช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องปรุงรสของไทย คุณสมเกียรติ โอวรารินท์ ผู้บริหารด้านการตลาด บริษัท ชิตา ออร์แกนิคฟู้ด จำกัด ๒๙๙ ม.๗ ต. นครเจดีย์ อ. ป่าซาง จ. ลำพูน ๕๑๑๒๐ โทรศัพท์ : ๐๕๓ ๕๕๕ ๒๔๘-๙ โทรสาร : ๐๕๓ ๕๕๕ ๒๔๙ ที่มา : รายงานประจำปี 2555 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
31 ม.ค. 2012
โรงงานแปรรูปเนื้อสุกร บมจ. ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) ลดพลังงาน – ลดต้นทุน – ลดโลกร้อน
โรงงานผลิตสุกรของบริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งปี ๒๕๔๖ ดำาเนินธุรกิจผลิตเนื้อสุกรแปรรูปแช่เย็นและแช่แข็งปัจจุบันมีปริมาณการผลิตประมาณ ๔๑,๐๐๐,๐๐๐ ตัน/ปี การที่กิจการมีความก้าวหน้า เนื่องจากมีการนำระบบมาตรฐานต่าง ๆ มาใช้ในการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการสร้างความพร้อมสำหรับการแข่งขันในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะการแข่งขันเสรีในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะมีผลในปี ๒๕๕๘ นี้ หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ซีพีเอฟให้ความสำคัญคือ การใช้พลังงานและการจัดหาพลังงานทดแทนสำหรับใช้ในกระบวนการผลิต “ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีต้นทุนการผลิตค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเรื่องของนโยบายการปรับค่าแรงทั่วประเทศหรือเรื่องของพลังงาน หากได้ความช่วยเหลือจากทางการในเรื่องการจัดหาพลังงานทดแทน เช่น การลงทุนในส่วนของโซลาร์เซลล์ ประเทศไทยน่าจะใช้ประโยชน์จากพลังงานตรงนี้ได้มาก” คุณอนันต์ วงษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ. ซีพีเอฟ แสดงความเห็น เพื่อปรับปรุงการจัดการด้านพลังงาน บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้เข้าร่วม “กิจกรรมการจัดการพลังงานแบบสมบูรณ์เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการใช้พลังงานสำหรับอุตสาหกรรม (Total Energy Management: TEM) รุ่นที่ ๑๐” ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเมื่อจบกิจกรรมสามารถลดค่าปริมาณการใช้พลังงานรวมได้ ๒,๐๙๕,๐๘๒ MJ/ปี มีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานลดลง ๑,๘๔๐,๐๕๑ บาท/ปี คิดเป็นร้อยละ ๗.๕๑ จากค่าใช้จ่ายการใช้พลังงานรวมก่อนเข้าร่วมกิจกรรม ๒๔,๔๙๑,๒๕๔.๘๕ บาท/ปี ซึ่งหากภาคอุตสาหกรรมร่วมมือร่วมใจในการบริหารจัดการพลังงาน จะไม่เพียงยังประโยชน์ ต่อองค์กร แต่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมโดยรวมของประเทศด้วย คุณอนันต์ วงษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ. ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) ๒๖/๒ หมู่ ๗ ถ. สุวินทวงศ์ ต. คลองนครเนื่องเขต อ. เมือง จ. ฉะเชิงเทรา ๒๔๐๐๐ โทรศัพท์ : ๐๓๘ ๕๙๓ ๖๘๔-๖ โทรสาร : ๐๓๘ ๕๙๓ ๖๘๔๗ ที่มา : รายงานประจำปี 2555 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
31 ม.ค. 2012
ยูนิเกรนมาร์เกตติ้ง สร้างเอกลักษณ์ ‘ข้าวธรรม’
สินค้าเกษตรคุณภาพดี สามารถขยับชั้นจากการเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ธรรมดา (Commodity Goods) มาสู่สินค้ามีแบรนด์ได้ เช่น กล้วยหอมโดล แอปเปิ้ลฟูจิ และกีวีเซสปรี เป็นต้น ผลิตภัณฑ์ของไทยก็เช่น ส้มธนาธร หรือผักผลไม้โครงการหลวง ซึ่งการสร้างแบรนด์และการวางตำแหน่งสินค้าในระดับสูงได้ ย่อมหมายถึงการใส่ใจคุณภาพทุกขั้นตอนการผลิต คุณปนิธิ เหล่าธรรมทัศน์ ซีอีโอ บริษัท ยูนิเกรนมาร์เก็ตติ้ง (1999) จำกัด ผู้คร่ำหวอดอยู่ในธุรกิจค้าข้าวมากว่า ๓๐ ปี มองเห็นโอกาสเดียวกันนี้ จึงได้พัฒนาข้าวพรีเมียมแบรนด์ “ข้าวธรรม” ออกสู่ตลาดด้วยการปูทางเรื่องแบรนด์มาก่อนล่วงหน้าหลายปี ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะเป็นการสร้างความแตกต่างจากข้าวในประเทศและต่างประเทศในยุคที่เงื่อนเวลา AEC กระชั้นเข้ามา เนื่องจากหลายประเทศ ในอาเซียนล้วนผลิตข้าวได้จำนวนมากและผู้บริโภคไม่ทราบถึงความแตกต่าง ระยะแรกของการสร้างแบรนด์ในตลาดค้าปลีก ยูนิเกรนฯ พบปัญหามากมาย เนื่องจากเดิมมีความชำนาญด้านค้าส่ง โดยครอบครัวมีประสบการณ์ค้าส่งข้าวมานานถึง ๖๐ ปี แต่ผู้บริหารหมั่นแสวงหาความรู้ใหม่อยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อได้เข้าร่วม “กิจกรรมพัฒนาการรวมกลุ่มและเชื่อมโยงอุตสาหกรรม (Cluster)” ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในนาม “ไทยฟู๊ดคลัสเตอร์” ผลจากการเข้าร่วมกิจกรรมคุณปนิธิ เห็นว่ามีประโยชน์อย่างมาก ก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างสมาชิกภายในกลุ่ม มีการพัฒนาทั้งด้านผลิตภัณฑ์ และการตลาดอย่างต่อเนื่อง “คอนเซ็ปต์ของกลุ่ม คือ ทุกคนในกลุ่มต้องช่วยตัวเองส่วนหนึ่งและทางกรมฯ ช่วยสนับสนุนในส่วนหนึ่ง เช่น ในเรื่องของการออกงานและการอบรม สมาชิกในกลุ่มอาจอยู่คนละสายงาน แต่พอมานั่งคุยกันรับฟังการทำงานในอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน ทำให้ได้รับความรู้มากขึ้น เหมือนมี consult เพราะว่าเจ้าของธุรกิจมาแนะนำถ่ายทอดประสบการณ์ด้วยตัวเอง ผมได้ความรู้จากเพื่อน ๆ มากมาย ผมว่าแค่นี้ก็คุ้มค่ามากแล้ว” การมุ่งสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ แบรนด์องค์กร รวมทั้งการผนึกกำลังสร้างแบรนด์ให้กับประเทศไทย จึงเป็นภารกิจสำคัญร่วมกันของผู้ประกอบการไทยในเวลานี้ คุณปนิธิ เหล่าธรรมทัศน์ ซีอีโอ บริษัท ยูนิเกรนมาร์เก็ตติ้ง (1999) จำกัด สำนักงาน : ๑๕๖ ถ. เฉลิมเขตร์ ๑ แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบฯ กทม. ๑๐๑๐๐ โรงงาน : ๕๐/๕ ม. ๑๒ ถ. พุทธมณฑล สาย ๕ ต. ไร่ขิง อ. สามพราน จ. นครปฐม ๗๓๒๑๐ โทรศัพท์ : ๐ ๒๘๑๑ ๙๖๗๐-๓ ที่มา : รายงานประจำปี 2555 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
31 ม.ค. 2012
คุณภาพทุกขั้นตอนการผลิต ลมใต้ปีกของ “นกพิราบ”
แม้ผัก ผลไม้ดอง และอาหารกระป๋องตรา “นกพิราบ” จะเป็นที่รู้จักของสังคมไทยมานานกว่ากึ่งศตวรรษ แต่ก็ไม่อาจหยุดนิ่งในการพัฒนาตรงกันข้าม การปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้แบรนด์นกพิราบดำรงอยู่ในใจผู้บริโภคหลากหลายกลุ่ม การผลิตอาหารกระป๋อง คุณภาพวัตถุดิบตั้งแต่ต้นทางนับเป็นหัวใจสำคัญ “เรามีการปรับปรุงกิจการอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นการแก้ปัญหาด้านประสิทธิภาพพื้นฐาน แต่ยังมีปัญหาด้านคุณภาพ ซึ่งมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ส่งผลต่อวัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์ ทำให้ยากในการวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริง” คุณวิสุทธิ์ รัชตสวรรค์ กรรมการบริหาร บริษัท สันติภาพ (ฮั่วเพ้ง 1958) จำกัด อธิบาย เมื่อมีโอกาสได้เข้าร่วม“กิจกรรมพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิต เพื่อยกระดับความสามารถการแข่งขัน (Manufacturing Development to Improve Competitiveness Programme : MDICP-PIA)” ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ทำให้ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในการใช้เทคนิค SPC (Statistical Process Control) ในการปรับปรุงกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพดีกว่าเครื่องมือพื้นฐานทั่วไป เช่น การปรับปรุงคุณภาพผักหัวห่อแน่น ซึ่งเดิมอุณหภูมิการเพาะปลูกเป็นปัจจัยที่ควบคุม ไม่ได้ แต่สามารถชดเชยด้วยปัจจัยที่ควบคุมได้ เช่น ระยะปลูก ปริมาณ ปุ๋ย และอายุตัด หรือการใช้ปัจจัยน้ำหนักต่อพื้นที่ของโคนก้านและปลายก้านมาช่วยคำนวณเพื่อกำหนดขนาดผักหั่น หรือการปรับปรุงรสชาติ ซึ่งจากการศึกษาวิจัยพบว่าลูกค้าให้ความสำคัญกับรสชาติมากกว่ากลิ่นและเนื้อสัมผัส อันนำมาสู่การวิเคราะห์ตรวจสอบทางเคมีและย้อนกลับสู่กระบวนการปลูกและกระบวนการผลิตวัตถุดิบเพื่อให้ได้รสชาติสม่ำเสมอ นอกจากการรักษามาตรฐานผลิตภัณฑ์ คุณวิสุทธิ์เห็นว่า การใช้เทคโนโลยีเพื่อทดแทนแรงงาน การหาพันธมิตรจากประเทศเพื่อนบ้านเพื่อขยายฐานการผลิตและขยายตลาดเพื่อรองรับ AEC ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินควบคู่กันไป คุณวิสุทธิ์ รัชตสวรรค์ กรรมการบริหาร บริษัท สันติภาพ (ฮั่วเพ้ง 1958) จำกัด ๓๗ หมู่ ๑ ซ. สุขสวัสดิ์ ๔๓ ถ. สุขสวัสดิ์ ต. บางครุ อ. พระประแดง จ. สมุทรปราการ ๑๐๑๓๐ โทรศัพท์ : ๐ ๒๘๑๙ ๓๑๑๑ โทรสาร : ๐ ๒๘๑๙ ๓๔๒๒ อีเมล : info@peacecanning.com ที่มา : รายงานประจำปี 2555 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
31 ม.ค. 2012