Category
5 สุดยอดประโยชน์ที่สำคัญของ Digital Transformation
Digital Transformation กลายเป็นคำศัพท์สำหรับองค์กรในทุกวันนี้ โลกได้ผ่านระบบดิจิตอลแล้ว แต่นั่นหมายความว่าธุรกิจพร้อมที่จะรื่นเริงในยุคดิจิทัล การตอบสนองค่อนข้างผสมกัน แม้กระนั้นประโยชน์ของการแปลงระบบดิจิตอลยังไม่เป็นที่รู้จักซึ่งทำให้พื้นที่ที่ไม่ได้สำรวจอาจจะมีความเสียง ในการนำความหมายที่แท้จริงของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลมาใช้จำเป็นต้องทำให้ บริษัท องค์กรและธุรกิจต่าง ๆ เข้าใจถึงประโยชน์ที่สำคัญ 5 ประการเพื่อให้กระบวนการปรับตัวสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นและมีกำไรมากขึ้นนั่นเอง ปรับปรุงประสิทธิภาพ ทุกองค์กรต้องการอะไร ความพึงพอใจของลูกค้าอาจเป็นประโยชน์อย่างหนึ่ง แต่การปรับปรุงประสิทธิภาพเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญสำหรับ Digital Transformation องค์กรต่าง ๆ กำลังเคลื่อนห่างจากการแทรกแซงด้วยตนเองเนื่องจากประสิทธิภาพกำลังเริ่มเป็นวลีสำคัญ เมื่อกระบวนการแบบแมนนวลถูกแทนที่ด้วยเวอร์ชั่นอิเล็กทรอนิกส์จะมีการไหลของกระบวนการที่รวดเร็วยิ่งขึ้นซึ่งจะนำมาซึ่งการทำให้แบบจำลองประสิทธิภาพขององค์กรกลายเป็นเรื่องราวความสำเร็จในการคำนวณ ประสบการณ์ของลูกค้า ความพึงพอใจของลูกค้ามีความสำคัญสูงสุด สำหรับองค์กรใด ๆ ลูกค้ามาก่อน ด้วยเหตุผลนี้หากองค์กรต้องการวัดความสำเร็จของตนเองสิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจคุณภาพของความพึงพอใจของลูกค้าและวิธีการที่ใช้ในการตัดสินขั้นสุดท้าย ยิ่งระดับความพึงพอใจของลูกค้าดีขึ้นเท่าใดอัตราความสำเร็จใน Digital Transformation สำหรับองค์กรก็จะสูงขึ้นเท่านั้น การตัดสินใจที่แข็งแกร่ง อะไรช่วยให้ธุรกิจสำเร็จใน 2 ขั้นแรก ? เมื่อฝ่ายบริหารมีข้อมูลที่เพียงพอและวางแผนมาอย่างดีเพื่อการตัดสินใจที่ดีจะแสดงในอัตราความสำเร็จความเหมาะสมของแบรนด์และชื่อแบรนด์ของธุรกิจ การตัดสินใจที่ดีกว่าคือโอกาสในการบรรลุเป้าหมายขององค์กรในระยะยาว ในที่สุดวิธีการผลักดันเป้าหมายขององค์กรเหล่านี้คือสิ่งที่นำพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จนั่นเอง เพิ่มผลกำไร Digital Transformation นั้นวัดได้ดีที่สุดโดยมีอัตรากำไร ณ สิ้นปี ผลกำไรที่สูงขึ้นก็จะเป็นแรงจูงใจของพนักงานและที่สำคัญกว่าก็คือความไว้วางใจจากลูกค้าในแบรนด์ เมื่อผลกำไรได้รับการปรับปรุงการตัดสินใจมากขึ้นสามารถนำไปสู่การปรับปรุงประสิทธิภาพในกระบวนการทางธุรกิจซึ่งสามารถมุ่งสู่การปรับปรุงการบริการลูกค้าที่ดียิ่งขึ้นในที่สุดนั่นเอง การเจาะตลาดที่ดีขึ้น ลูกค้าใหม่สามารถเพิ่มเข้าไปในบรรทัดฐานทางธุรกิจที่มีอยู่โดยการเจาะตลาดที่ไม่ได้มีการสำรวจหรือฐานลุกค้าใหม่ เมื่อมีการวางตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่สิ่งสำคัญคือการแบ่งส่วนเพื่อวัดคุณภาพของเป้าหมาย ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพและการตัดสินใจที่ดีขึ้นกระบวนการเจาะตลาดจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นซึ่งจะช่วยดึงดูดลูกค้าที่ภักดีเมื่อฐานลูกค้าขยายตัวความต้องการผลกำไรและความพึงพอใจของลูกค้าก็จะดีขึ้นเช่นกัน เมื่อกระบวนการเหล่านี้รวมเข้าด้วยกันจะก่อให้เกิดห่วงโซ่ซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จของเป้าหมายทางธุรกิจที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ผลประโยชน์แต่ละรายการจะเชื่อมโยงกับผลประโยชน์อื่นซึ่งจำเป็นสำหรับการบรรลุเป้าหมายโดยรวมขององค์กร การตัดสินใจที่ดีนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำกำไรที่ดีขึ้นและความพึงพอใจของลูกค้าเพื่อผลักดันสาระสำคัญของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและประสิทธิภาพภายในขอบเขตขององค์กรแต่ละแห่ง
01 มิ.ย. 2020
ปัญญาประดิษฐ์กำลังเปลี่ยนแปลงธุรกิจในทุกอุตสาหกรรม
AI มีผลต่อการพัฒนาแอพอย่างไร? ตรวจสอบหน้าของ Instagram หรือใต้แท็บหรือคุณ คุณจะพบจำนวนบัญชีที่จะติดตามและมีการปรับให้เข้ากับความสนใจของคุณ ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ง่ายที่สุดของ AI - การใช้เหตุผลเชิงทำนาย AI ของ Instagram กำลังวิเคราะห์บัญชีที่คุณติดตามบัญชีที่คุณเยี่ยมชมและโพสต์ที่คุณชอบทุกครั้งที่คุณใช้แอป จากนั้นจะใช้ข้อมูลนั้นเพื่อสร้างคำแนะนำว่าคุณควรติดตามใครในหน้าสำรวจ AI ชนิดนี้ภายในแอพกลายเป็นเรื่องธรรมดาในทุกวันนี้ทุกอย่างตั้งแต่ Amazon Go ไปจนถึงแอพ Starbucks ที่รวมเอาคุณสมบัติการให้เหตุผลเชิงทำนายที่คล้ายกันโดยอิงตามคุณสมบัติ AI ชี้นำ ซึ่งนี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็ก ๆ ของ AI ที่มีผลกระทบอย่างมากต่อการพัฒนาแอพ อย่างไรก็ตามนักพัฒนาแอปไม่จำเป็นต้องสร้างรหัสที่ซับซ้อนเพื่อสร้างหน้าสำรวจอีกต่อไป ตอนนี้ AI สามารถอัพเดตและสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ใหม่ที่ปรับให้เหมาะกับผู้ใช้แต่ละคนของแอพได้อย่างต่อเนื่อง - ทำให้ AI เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ทรงพลังที่สุดที่แอพสามารถใช้ในทางธุรกิจในปัจจุบัน แต่ไม่ใช่เพียงแค่การพัฒนาแอปที่ได้รับผลกระทบจาก AI AI ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างไร คุณรู้หรือไม่ว่า ทุกครั้งที่คุณจองเที่ยวบิน หาโรงแรมและร้านอาหารที่ใกล้ที่สุดและคุณจะได้ร้านแนะนำเหล่านั้น นั่นคือ AI ที่เป็นตัวช่วยในการค้นหาซึ่งใช้รูปแบบวิธีการเดียวกับ AI อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการท่องเที่ยวต่างก็นั่นคือ AI ใช้การแปลงความหมายให้ตรงกับวิถีและการใช้ชีวิต เพื่อให้ตรงกับลักษณะที่สุด อันที่จริงมี AI ที่สามารถดาวน์โหลดได้ที่เรียกว่า chatbots ซึ่งจะช่วยให้คุณวางแผนการเดินทางได้โดยตรงไม่ว่าจะเป็นการซื้อเต็นท์ที่ดีที่สุดสำหรับช่วงราคาที่กำหนดหรือในการจัดห้องชุดที่ดีที่สุดสำหรับการพักใน Cosmopolitan โดย AI ได้ปฏิวัติอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโดยการช่วยกำหนดสถานที่ โรงแรมหรือแม้แต่ร้านอาหารที่คุณอาจจะชื่นชอบได้ เพียงการค้นหาเท่านั้น AI ส่งผลต่อการเก็บหนี้อย่างไร การติดตามทวงหนี้ถือเป็นแรงกดดันอย่างหนึ่งในการทำงานไม่ว่าจะจากเจ้าหนี้หรือลูกหนี้ ซึ่ง AI สามารถดำเนินการติดตามทวงถามหนี้โดยอัตโนมัติจากการส่งอีเมลข้อความและโทรไปยังลูกค้าที่บันทึกไว้ล่วงหน้า แม้ว่าจะดูเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ส่งผลให้ลูกค้ารู้สึกว่าถูกรบกวนน้อยกว่าโดยหน่วยงานติดตามหนี้ พวกเขาจะไม่ได้รับสายตลอดวันทำงาน แต่จะรับสายเพียงครั้งเดียวและส่งอีเมลหนึ่งฉบับเท่านั้น ซึ่งจะเป็นการวิเคราะห์จาก AI มาแล้วในการดำเนินการ ซึ่ง AI ในหน่วยงานติดตามทวงหนี้เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของวิธีที่ AI สามารถทำให้ชีวิตง่ายขึ้นสำหรับลูกหนี้ ซึ่งระบบ AI จะดำเนินการเก็บข้อมูลทุกอย่างที่ดำเนินการไป ไม่ว่าจะเป็นการโทรติดตามทวงถามและการส่งเมล ซึ่งทำให้บริษัททิ่ติดตามทวงหนี้สามารถดำเนินการกับลูกหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสม AI มีผลต่อการค้าปลีกอย่างไร คุณเคยซื้อของในไซต์และซื้อกางเกง camo เพียง เพราะได้เห็นการโฆษณาที่ปรากฏขึ้นมาโชว์ให้คุณเห็นว่า เคยมีคนซื้อสินค้านี้แล้วและเค้าชอบมาก หรือไม่ นั่นคือการทำงานของ AI ที่เป็นการวิเคราะห์คุณจากการเยี่ยมชมเว็บไซต์และนำเสนอสินค้าที่เหมาะสมและคิดว่าตรงตามบุคลิกและนิสัยของคุณนั่นเอง โดย Amazon จะเป็นตัวอย่างที่ง่ายที่สุดของรูปแบบที่ร้านค้าปลีกออนไลน์ ซึ่งส่วนใหญ่จะมี AI ที่ติดตามและประเมินพฤติกรรมการซื้อของคุณเพื่อแนะนำรายการใหม่ให้กับคุณ และนี่เป็นเพียงตัวอย่างของวิธีที่ AI สามารถปรับปรุงการบริการลูกค้านั่นเอง AI ส่งผลต่อการจัดการบริการไอทีและการพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างไร จากการสนับสนุนลูกค้าไปจนถึงการพัฒนาซอฟต์แวร์ ซึ่งจะมี AI ใช้งานในการเริ่มต้นทั้งนั้น โดยการใช้ AI เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาพื้นฐานทำให้เป็นเครื่องมือสนับสนุนลูกค้าที่มีประโยชน์ในการจัดการบริการในด้านไอดี ในการให้บริการในช่องทางที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น AI ยังสามารถช่วยวิศวกรซอฟต์แวร์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่ง AI จะมีประสิทธิภาพดีกว่าบุคคลจจนถึงการแก้ปัญหาด้วยเหตุผลเชิงคาดการณ์อีกด้วย ซึ่ง AI กำลังกลายเป็นเครื่องมือหลักในการพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างรวดเร็ว อีกทั้ง AI ยังมีประโยชน์อย่างมากในการวิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บไว้ในเครื่องมือจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์และการใช้ข้อมูลนั้นเพื่อสร้างข้อได้เปรียบสำหรับทุกคนตั้งแต่วิศวกรซอฟต์แวร์ไปจนถึงเจ้าของธุรกิจ AI ใน AR และ VR AI มีส่วนช่วยในการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของ AR และ VR กล่าวคือ AI มีศักยภาพที่จะทำให้แอป AR และ VR ไปสู่อีกระดับโดยปรับรูปแบบจากการเกบข้อมูลของผู้ใช้ให้เหมาะกับผู้ใช้ตามนิสัยของพวกเขา ความสามารถนี้ทำให้ AI เป็นปัจจัยหลักของอุตสาหกรรมการพัฒนาแอปในโลกสมัยใหม่เท่านั้น สรุปแล้ว… สามารถที่จะกล่าวว่า AI มีการใช้งานในทุกอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นงานง่าย ๆ เช่นการแนะนำผลิตภัณฑ์หรือการให้บริการลูกค้าขั้นพื้นฐานหรือสำหรับมาตรการที่ซับซ้อนเช่นการทดสอบซอฟต์แวร์และดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ครอบคลุมสำหรับอุตสาหกรรมในทุก ๆ ที่ทั่วโลก
01 มิ.ย. 2020
วิธีการจัดการ Big Data อย่างมีประสิทธิภาพ
การจัดการข้อมูลมีความสำคัญในการจัดการองค์กรและการจัดการไฟล์ข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งอาจจะต้องการเก็บอย่างถาวรหรือส่งไฟล์ขนาดใหญ่ทั้งข้อมูลที่มีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้างหรือเอกสารเพื่อให้แน่ใจว่าทุกแผนกของบริษัทสามารถเข้าถึงได้ โดยบริษัท ต่าง ๆกำลังใช้โซลูชั่นข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อรองรับการเติบโตของกลุ่มข้อมูลอย่างรวดเร็ว การจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพช่วยให้องค์กรสามารถค้นหาข้อมูลที่มีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้างได้อย่างง่ายดาย เพื่อรวบรวมข้อมูลขนาดใหญ่จากแหล่งต่าง ๆ เช่น ไซต์โซเชียลมีเดียเว็บไซต์และบันทึกระบบ อย่างไรก็ตามบ่อยครั้งที่ผู้เริ่มต้นจะติดปัญหาในการจัดการทุกอย่างเกี่ยวกับข้อมูลขนาดใหญ่บ้าง สภาพแวดล้อมของข้อมูลในธุรกิจทุกวันนี้เหนือกว่าแพลตฟอร์มฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์และคลังข้อมูลดั้งเดิม คุณอาจต้องใช้เทคโนโลยีในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลในรูปแบบที่ไม่ใช่ธุรกรรม การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของหน่วยงานอย่างช้า ๆ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเรียนรู้การวิเคราะห์และจัดเก็บข้อมูลเพื่อปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ ในความเป็นจริงการจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพช่วยให้ธุรกิจมีความได้เปรียบในการแข่งขันมากขึ้น ซึ่งหัวข้อดังต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับที่จะช่วยให้องค์กรจัดการฐานข้อมูลได้อย่างราบรื่น สรุปเป้าหมายของคุณ คุณต้องกำหนดเป้าหมายเพื่อทราบข้อมูลที่ธุรกิจจำเป็นต้องเจริญเติบโต ไม่เช่นนั้นคุณอาจพบกับกลุ่มข้อมูลจำนวนมากที่ไม่เกี่ยวข้องกับความต้องการทางธุรกิจของคุณ การมีส่วนร่วมของทีมงานทั้งหมดในการกำหนดเป้าหมายของ บริษัท เป็นสิ่งสำคัญ องค์กรอาจสิ้นสุดการรวบรวมข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหากไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน คุณต้องกำหนดกลยุทธ์เพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายเหล่านั้น แน่นอนว่าทุกคนต้องการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพของธุรกิจ คุณต้องมีทิศทางก่อนเริ่มการดำเนินการ การป้องกันข้อมูล ไม่มีใครต้องการรวบรวมข้อมูลด้วยความยากลำบากและจบลงด้วยการสูญเสียมัน ดังนั้นองค์กรควรรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและสามารถเข้าถึงได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะวิเคราะห์ข้อมูลที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ อีกวิธีหนึ่งในการรักษาความปลอดภัยข้อมูลคือการใช้การสแกนมัลแวร์การรักษาความปลอดภัยไฟร์วอลล์และการกรองสแปม คุณสามารถใช้เว็บไซต์หรือบทวิจารณ์ผลิตภัณฑ์เพื่อรวบรวมข้อมูลจากลูกค้า อย่างไรก็ตามมีผู้ประกอบการเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่ใช้เวลาในการบังคับใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูล อย่าใช้การจัดการข้อมูลเพื่อรับสิทธิ์ เพราะอาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้ ในความเป็นจริงความปลอดภัยของข้อมูลเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของการจัดการข้อมูลของบริษัท ปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงใหม่ หนึ่งในแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่คือการรักษาแนวโน้มการจัดการข้อมูล โปรดรู้ว่าข้อมูลและซอฟต์แวร์มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นจึงมีเครื่องมือและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มากมายที่ออกสู่ตลาดทุกวัน การก้าวไปตามเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ ๆ จะช่วยให้ บริษัท สามารถสร้างฐานข้อมูลที่ดีขึ้นและก้าวล้ำนำหน้า สิ่งสำคัญคือต้องมีความยืดหยุ่นและปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงในการจัดการข้อมูลอยู่เสมอ เชื่อมโยงข้อมูลของคุณ มีช่องทางมากมายที่สามารถใช้ในการเข้าถึงฐานข้อมูล คุณไม่จำเป็นต้องปรับใช้เครื่องมือเทคโนโลยีที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละแอปพลิเคชัน อีกวิธีหนึ่งในการปรับปรุงกระบวนการคือการเชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมดของคุณเข้าด้วยกัน การสื่อสารผิดพลาดระหว่างข้อมูลและแอปพลิเคชันอาจทำให้เกิดปัญหามากมาย การเก็บข้อมูลบนคลาวด์ถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้เพื่อเชื่อมโยงข้อมูล แน่นอนว่าทุก บริษัท ต้องการแอปพลิเคชั่นและข้อมูลทั้งหมดในการประมวลผลอย่างราบรื่น การประสานข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทีมที่จะใช้ฐานข้อมูลเดียวกันและจะทำให้เกิดปัญหาน้อยลงอีกด้วย อย่ามองข้ามกฎการตรวจสอบ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมั่นใจว่าแม้แต่ผู้จัดการฐานข้อมูลยังคงต้องรักษากฎในการตรวจสอบ ไม่ว่าเป้าหมายคือการจัดการข้อมูลในเรื่องของการชำระเงินหรือคะแนนเครดิต สิ่งสำคัญที่สุดคือการปฏิบัติตามกฎการตรวจสอบอย่างเคร่งครัด การใช้เคล็ดลับดังกล่าวข้างต้นจะช่วยให้ บริษัท จัดการข้อมูลได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามโปรดทราบว่ากลยุทธ์การจัดการข้อมูลขนาดใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
01 มิ.ย. 2020
FinTech คืออะไร ทำไมใคร ๆ ก็พูดถึง?
FinTech เป็นคำที่กำลังมาแรงมากในยุคนี้ เชื่อว่าหลายคนคงเริ่มได้ยินคำนี้บ่อยขึ้นเรื่อย ๆ แล้วก็ได้แต่สงสัยว่า FinTech แปลว่าอะไร เกี่ยวข้องกับอะไร และสำคัญอย่างไร ทุกคนถึงพูดถึงกัน วันนี้จะมาไขข้อข้องใจกันกับ FinTech ไปพร้อม ๆ กัน FinTech คืออะไร? FinTech ไม่ได้แปลตามตัวแต่เกิดจากการรวมกันของ 2 คำได้แก่ Financial (การเงิน) และ Technology (เทคโนโลยี) หากแปลตรงตัวจึงหมายถึง เทคโนโลยีทางการเงินนั่นเอง ซึ่งการนำเทคโนโลยีมาบริหารด้านการเงินนั้นก็สามารถทำได้หลายด้านด้วยกัน ตัวอย่างเทคโนโลยีทางการเงินที่เด่น ๆ ของ Fintech นั้นมีดังต่อไปนี้ บริการด้านหุ้น/การลงทุน เช่น Application สำหรับ ซื้อขายหุ้น/กองทุน หรือการนำเทคโนโลยีมาวิเคราะห์แนวโน้มของหุ้นว่าควรซื้อขายเมื่อใด ซึ่งขอไทยที่มีชื่อเสียงได้แก่ StockRadars , Finnomena , Jitta และ SiamSquared Technologies เป็นต้น บริการด้านการจ่ายเงินและกระเป๋าเงินออนไลน์ ปัจจุบันให้บริการกันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็น Line pay, True Wallet และ bluepay เป็นต้น การระดมทุนออนไลน์ รู้จักกันดีในชื่อ Crowdfunding ซึ่งคือการนำเสนอแผนธุรกิจเพื่อให้คนทั่วโลกให้ทุนมาสานต่อ อย่าง Kickstarter หรือ IndieGogo หรือของไทยก็มี Asiola , Dreamaker Equity และ Phoenixict เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังมีด้านอื่น ๆ อีกเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยสินเชื่อออนไลน์ การแลกเปลี่ยน BitCoin เรียกได้ว่าในยุคนี้มีผู้ที่ให้บริการทางการเงินเยอะไปมาก ดังที่ Jamie Dimon CEO ของบริษัท JPMorgan Chase ได้กล่าวไว้ว่า "Silicon Valley startups are coming to eat Wall Street's lunch" หมายความว่าเหล่า Startup ทั้งหลายจาก Silicon Valley จะเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดจากธนาคารแล้วนั่นเอง ทำไม FinTech ถึงเป็นเทรนด์ในช่วงนี้? การนำเทคโนโลยีมาใช้กับการเงินและการลงทุนนั้นจริง ๆ มีมานานแล้ว (ไม่ว่าจะเป็นตู้ ATM บัตรเครดิต หรือว่าโปรแกรมซื้อขายหุ้น) แต่ที่อยู่ ๆ มาได้ยินกันบ่อย ๆ ช่วงนี้เพราะว่าเทคโนโลยีทางการเงินเหล่านี้เดิมพัฒนาไปอย่างช้า ๆ กว่าจะออกเทคโนโลยีใหม่สักครั้งก็ทิ้งช่วงเวลาหลายปี กระทั่งมาในยุคปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า Smartphone, โครงข่ายอินเทอร์เน็ตที่แข็งแกร่งขึ้น, การบูมของ Social Media, Tech Startup ฯลฯ ทำให้เกิดเทคโนโลยีทางการเงินใหม่ๆ ขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ก็เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคไปจากเดิมอย่างมาก ไหนจะแผนพัฒนาเศรษฐกิจของทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยที่พยายามเน้นนโยบายประเทศไทย 4.0 ที่อยากผลักดันให้ไทยเราก้าวเข้าสู่ Digital Economy มากขึ้น ดังนั้น FinTech จึงมีบทบาทมากขึ้นทุกวัน และบริษัทหรือองค์กรใดไม่รีบปรับตัว ไม่รีบศึกษา อาจจะตามโลกไม่ทันก็เป็นได้ FinTech ส่งผลกระทบอะไร? สำหรับใครที่แล้วยังสงสัยว่า FinTech เกี่ยวข้องอย่างกับชีวิตของเรา ก็ต้องบอกว่าการเข้ามาของ FinTech ส่งผลกระทบต่อทุกคนโดยตรงแน่นอน ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้บริโภคหรือผู้ให้บริการ เช่นเดียวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ด้านอื่น หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ด้านการเงินก็ทำให้พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของเราทุกคนเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมที่เคยทำธุรกรรมทางการเงินแต่กับธนาคาร ก็กลายเป็นเลือกใช้บริการจากเหล่าบริษัทที่ให้บริการ FinTech รายย่อยมากขึ้น จากที่เคยต้องเดินทางไปธนาคารบ่อย ๆ ก็กลายเป็นจัดการทางการเงินผ่าน Application เรียกได้ว่าทำให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้นเยอะ จากความสะดวกสบายที่เกิดขึ้นเพราะเทคโนโลยีก็ทำให้พวกเราทุกคนจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น ซึ่งการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นนี้ก็ทำให้มีเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจขยายตัว มีช่องทางการค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ ในขณะที่บริษัทด้านการเงินเจ้าเก่า ๆ ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร หรือบริษัทหลักทรัพย์ ฯลฯ ก็ต้องเร่งพัฒนาตัวเองเพื่อไม่ให้โดนเหล่าบริษัทใหม่ๆ เข้ามาแย่งพื้นที่การตลาด สุดท้ายแล้วคนที่ได้ประโยชน์ที่สุดก็เป็นผู้บริโภคอย่างพวกเราทุกคน เพราะการแข่งขันกันของ FinTech เจ้าต่าง ๆ จะทำให้เรามีตัวเลือกที่หลากหลายขึ้นในราคาที่ถูกลง ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ FinTech เท่านั้น ณ ตอนนี้เราอยู่ในโลกที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน และเติบโตแบบ “ก้าวกระโดด” และต่อจากนี้โลกก็จะยิ่งเปลี่ยนไปเร็วขึ้นๆอีกแน่นอน ไม่ว่าจะด้านการเงินหรือด้านอื่น ๆ ก็ตาม ดังนั้นแม้ว่าข้อมูลและเทรนด์ต่าง ๆ อาจจะเยอะและอัพเดทอย่างรวดเร็วแต่เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีแล้ว ทุกคนก็ควรติดตามศึกษาเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ “อย่าไปกลัวเทคโนโลยี แต่ให้โอบรับมัน” ก้าวไปกับมัน พยายามเข้าใจมัน และเทคโนโลยีจะกลายเป็นมิตรที่ดีกับเรานั่นเอง Cr : http://dv.co.th/blog-en/what-is-fintech-by-faunglada/
01 มิ.ย. 2020
9 ความสามารถของ AI ที่น่านำมามิกซ์แอนด์แมตช์กับธุรกิจคุณ
หากพูดถึงเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่มาแรงที่สุดแห่งยุคคงต้องยอมรับว่า ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า AI เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากในหลายๆ ธุรกิจเเละอุตสาหกรรม และมีแนวโน้มว่าปัญญาประดิษฐ์จะก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำงานและการใช้ชีวิตในโลกยุคดิจิทัลอย่างมาก จนมีคนตั้งคำถามว่า AI สามารถนำมาสร้างประโยชน์อะไรกับธุรกิจได้บ้าง? อนาคตจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร? เราควรจะเตรียมรับมืออย่างไร? อันที่จริงแล้วเทคโนโลยี AI นั้นเป็นแนวคิดที่มีมานานมาก และมีการพัฒนาต่อเนื่องมาหลายสิบปี โดยเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ เป็นความชาญฉลาดที่สร้างขึ้นให้กับสิ่งที่ไม่มีชีวิต และมีคุณลักษณะทางด้านสติปัญญาและความฉลาดคล้ายคลึงกับมนุษย์ จุดเด่นที่มีคือ ความสามารถในการเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง คิด วิเคราะห์ และแยกแยะข้อมูลที่ซับซ้อนได้ ตัวอย่างล่าสุดที่เห็นได้ชัดเจนคือ เทคโนโลยี AI จาก OpenAI ที่ใช้กับ Tesla ของ Elon Musk และ Sam Altman จาก Y Combinator ที่เอาชนะผู้เล่นมืออาชีพในการแข่งขันเกม Dota2 แบบผู้เล่น 1 ต่อ 1 ในงาน The International 2017 ภายใน 10 นาทีแรก หัวใจสำคัญที่ทำให้เทคโนโลยี AI สามารถเอาชนะเกมการเเข่งขันที่ซับซ้อน อย่าง AlphaGo เเละ Dota2 คือ การให้เทคโนโลยี AI ศึกษารูปแบบการเล่นของผู้เล่นมืออาชีพคนอื่นๆ หรือเล่นเกมแข่งกับตัวเองครั้งเเล้วครั้งเล่าจนระบบสามารถเรียนรู้ คิด วิเคราะห์ รวมไปถึงการวางแผนกลยุทธ์ เช่นเดียวกับปัจจุบัน หลายๆ อุตสาหกรรมมีการใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยทำงาน อาทิ โลจิสติกส์ การแพทย์ การบริการ ธนาคาร อีคอมเมิร์ซ ยิ่งเทคโนโลยี AI ได้รับการพัฒนาให้ฉลาดและมีความคิดวิเคราะห์ที่ซับซ้อนมากขึ้นเท่าไร บริษัทก็สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อสร้างประโยชน์ให้ธุรกิจอย่างสูงสุด เราจึงนำเทคโนโลยี AI ที่ทุกธุรกิจควรรู้เพื่อปรับตัวให้เข้ากับยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งใหม่ ดังต่อไปนี้ 1. ระบบเรียนรู้ข้อมูลและทำนายข้อมูลด้วย Machine Learning และ Big Data Platforms คือการเพิ่มศักยภาพในการประมวลผล เรียนรู้และทำนายผลของข้อมูล เนื่องจาก AI จำเป็นต้องใช้การเรียนรู้ผ่านข้อมูลต่างๆ ยิ่งมีข้อมูลเพื่อใช้ในการสอน AI มากเท่าไหร เราก็ยิ่งสามารถสร้าง AI ที่ฉลาดขึ้นได้มากเท่านั้น โดยกระบวนการสอนและอัลกอริทึมที่ใช้ในการสอน AI จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรในการประมวลผล และการเก็บรวบรวมข้อมูลจำนวนมาก ดังนั้น การสร้างระบบ AI ให้ประสบความสำเร็จได้ เทคโนโลยี Big Data จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ด้วยเช่นกัน 2. อุปกรณ์พิเศษเพื่อการประมวลผลเฉพาะทางสำหรับ AI (AI-optimized Hardware) นอกจาก Big Data แล้ว Machine Learning หรือ AI บางประเภทจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรในการประมวลผลจำนวนมาก การนำฮาร์ดแวร์พิเศษที่ถูกออกแบบมาให้มีหน่วยประมวลผลจำนวนมากเพื่อลดระยะเวลาในการประมวลผลลงได้จึงเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่จะมาช่วยให้ AI นั้นสามารถนำมาใช้งานจริงได้ ยกตัวอย่าง ระบบตรวจจับใบหน้าแบบ Real-time จำเป็นต้องมีระบบที่วิเคราะห์และประเมินภาพจำนวนมาก การนำ Graphics Processing Units (GPU) มาใช้เพื่อให้ระบบสามารถตรวจจับใบหน้าได้ทันเวลาก็ดูเหมือนจะเป็นสิ่งจำเป็น โดยในปัจจุบันกลุ่มผู้ผลิต Graphics Card ก็ออกผลิตภัณฑ์พิเศษเพื่อนำมาตอบโจทย์ด้าน AI โดยเฉพาะเช่นกัน 3. ผู้ช่วยตัดสินใจเรื่องยากๆ ให้เป็นเรื่องง่าย (Decision Management) การโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้ทำงานตามกฎที่เราตั้งไว้ คือความสามารถพื้นฐานของคอมพิวเตอร์ แต่เทคโนโลยี AI สามารถนำมาใช้ช่วยในการตัดสินใจเพื่อหาทางเลือกที่คุ้มค่าที่สุด มีความเสี่ยงน้อยที่สุด หรือใช้เวลาน้อยที่สุดได้ โดยเรียกว่าการค้นหาทางเลือกที่ Optimize ที่สุดบนข้อมูลที่มีอยู่ เพื่อช่วยให้เราตัดสินใจเรื่องยากๆ และมีข้อมูลที่ต้องใช้ประกอบการตัดสินใจจำนวนมาก เราจึงจำเป็นต้องใช้ AI อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น การทำ Personalized Marketing หรือ ระบบแนะนำสินค้าของแต่ละบุคคล 4. เหนือกว่า Machine Learning ด้วย Deep Learning เวลานี้ทุกคนคงเข้าใจและตระหนักถึงประโยชน์ของ Machine Learning แต่ถ้าเราจะสร้างระบบที่มีความซับซ้อนเพื่อใช้ในการจำแนกแยกแยะสิ่งต่างๆ ได้ ก็จำเป็นต้องออกแบบ AI ตามวิธีการทำงานของสมองมนุษย์ หรือเรียกว่า Artificial Neural Network (ANN) ซึ่งมีความซับซ้อนสูงมาก โดยเราสามารถนำ Deep Learning มาใช้ในการสร้างระบบแยกแยะสิ่งของหรือใบหน้า ระบบแยกแยะหรือจดจำเสียงได้ เป็นต้น 5. ระบุตัวตนด้วย AI การระบุตัวตนด้วยไบโอเมทริกซ์ ยกตัวอย่าง ม่านตา เสียง ลายนิ้วมือ หน้า ภาษากาย ถือเป็นส่วนหนึ่งของการนำเทคโนโลยี AI ที่ใช้ไบโอเมทริกซ์ในการจดจำรูปแบบ และแยกแยะออกมาใช้เพื่อยืนยันตัวตนหรือระบุตัวตนได้ ซึ่งหลายๆ อย่างก็อยู่ในชีวิตประจำวันของเราอยู่แล้ว อย่างการสแกนลายนิ้วมือเพื่อบันทึกเวลาแทนการตอกบัตร การสแกนม่านตาเพื่อเข้าใช้งานสมาร์ทโฟน เป็นต้น 6. รู้จักภาษาที่มนุษย์ใช้ ด้วยระบบประมวลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing – NLP) NLP คือเทคโนโลยีที่จะช่วยทำให้เรามีปฏิสัมพันธ์กับคอมพิวเตอร์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยเทคโนโลยี NLP จะวิเคราะห์คำสั่งหรือความต้องการของผู้ใช้ผ่านภาษาธรรมชาติ อาทิ Google นำ NLP มาช่วยให้การค้นหาเอกสารใน Google Drive สะดวกและแม่นยำขึ้น ยกตัวอย่าง หากต้องการค้นหาเอกสารที่มาจาก Anissa เราสามารถพิมพ์คำสั่งว่า “Show me documents from Anissa” เพื่อค้นหาหรือเข้าถึงเอกสารที่เราต้องการได้ทันที นอกจากนี้ NLP ยังครอบคลุมถึงความสามารถในการสร้างรูปประโยคธรรมชาติเพื่อใช้ตอบสนองผู้ใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ เช่น Siri สามารถสร้างประโยคเพื่อตอบคำถามที่เราถามได้อย่างรวดเร็ว 7. ตอบโต้ด้วยเสียง จากระบบรู้จำและสังเคราะห์เสียงพูด (Speech Recognition and Synthesis) เรียกได้ว่าเป็นอีกระบบที่สามารถทำงานร่วมกับระบบ NLP เพื่อให้เราสามารถตอบโต้กับคอมพิวเตอร์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น เช่น หากเราต้องการค้นหาเอกสาร คงจะดีกว่าถ้าเราสามารถพูดว่า “ค้นหาเอกสารเมื่อวานที่ส่งมาจากคุณวันชัยให้หน่อย” หลังจากนั้นระบบก็สามารถสร้างเสียงเพื่อโต้ตอบกับเราได้ ยกตัวอย่าง Siri สามารถฟังคำสั่งของเราผ่านการพูดได้ และตอบสนองสิ่งที่เราต้องการผ่านการสร้างรูปประโยคที่ต้องการ และพูดประโยคนั้นให้เราได้ยิน 8. เข้าถึงทุกบริการด้วยผู้ช่วยเสมือนจริง (Virtual Agents) คือเทคโนโลยีที่ทำให้เราสามารถเข้าถึงคลังความรู้หรือบริการต่าง ๆ ได้อย่างไม่รู้จบบนสมาร์ทโฟนของเรา เช่น Siri สามารถเข้าถึงและเข้าใจตารางงาน อีเมล ปฏิทิน นาฬิกา หรือ Alexa สามารถเข้าถึงบริการของ Amazon หรือ Smart Home Device ของเราได้ ด้วยความสามารถในการเข้าใจความต้องการของมนุษย์และความสามารถในการค้นหาบริการเพื่อตอบสนองสิ่งที่เราต้องการได้ ถือเป็นหัวใจของระบบผู้ช่วยเสมือนจริง ซึ่งก็คือสิ่งที่ทุกวันนี้เรารู้จักผ่านเทคโนโลยีที่เรียกว่า Chatbot 9. ระบบอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยีหุ่นยนต์ (Robotic Process Automation) เทคโนโลยีหุ่นยนต์ถูกนำมาใช้ในวงการอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน แต่การนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์มาประยุกต์ใช้กับภาคธุรกิจ หรือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันยังคงอยู่ในวงจำกัด คือสามารถนำมาใช้แก้ปัญหาเฉพาะด้านต่าง ๆ ได้ เช่น หุ่นยนต์ทำความสะอาด หุ่นยนต์พนักงานต้อนรับ รถที่สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถเชื่อมโยง AI ที่เป็นสมองกลของระบบเข้ากับโลกแห่งความเป็นจริงได้ เมื่อนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่าง ๆ มีบทบาทต่อวิถีชีวิตของผู้คนและเป็นตัวแปรสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจมากขึ้น ทุกองค์กรรวมถึงพนักงานในองค์กรจึงต้องเตรียมตัว พัฒนาศักยภาพ และทำความเข้าใจนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้ก้าวทันเทคโนโลยีแห่งอนาคต และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้
01 มิ.ย. 2020
วิดีโอการเรียนการสอน
ท่านสามารถรับชมวิดีโอย้อนหลังของหลักสูตรฝึกอบรมต่าง ๆ ที่กรมฯ ได้จัดขึ้น สำหรับให้ผู้ประกอบการ หรือบุคคลที่สนใจ ได้รับความรู้ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์แก่กิจการและองค์กร
01 มิ.ย. 2020
กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการในรูปแบบออนไลน์ หลักสูตร “การวางแผนและการบริหารเพื่อการอยู่รอดและเติบโตสำหรับผู้ประกอบการในภาวะวิกฤต”
กสอ. จัดบ่มเพาะผู้ประกอบการออนไลน์ เพื่อสามารถรับมือและบริหารธุรกิจให้ผ่านพ้นสภาวะวิกฤต COVID-19 และหวังสร้างที่ปรึกษาทางธุรกิจยุคใหม่ กรุงเทพฯ 1 มิถุนายน 2563 นายใบน้อย สุวรรณชาตรี รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในการเปิดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการในรูปแบบออนไลน์ หลักสูตร “การวางแผนและการบริหารเพื่อการอยู่รอดและเติบโตสำหรับผู้ประกอบการในภาวะวิกฤต” ร่วมด้วย ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ณ ห้อง DIProm Co-Working Space ชั้น 3 อาคาร กสอ. การอบรมดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้โครงการศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือเอสเอ็มอี (SME Support & Rescue Center : SSRC) โดยการอบรมออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น ZOOM Cloud Meeting เพื่อให้ผู้ประกอบการหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ได้รับความรู้ด้านการบริหารธุรกิจและสามารถพลิกฟื้นธุรกิจได้ รวมถึงสามารถวางแผนธุรกิจเพื่อรองรับต่อสถานการณ์วิกฤตในอนาคต ซึ่งมีผู้ประกอบการสนใจเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 30 ราย ทั้งนี้ ผู้ที่ผ่านหลักสูตรการฝึกอบรม ดังกล่าว สามารถนำความรู้ที่ได้รับ ไปให้คำปรึกษาแนะนำกับผู้ประกอบการรายอื่นได้เช่นเดียวกันและยังสามารถพัฒนาตนเองเพื่อต่อยอดเป็นวิทยากรหรือที่ปรึกษาในเครือข่ายของ กสอ. เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำแก่ผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ต่อไปได้ ณ ห้อง DIProm Co-Working Space ชั้น 3 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2563
01 มิ.ย. 2020
กฏหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค
พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 พระราชบัญญัติว่าด้วยข้อสัญญาที่เป็นธรรม พ.ศ. 2540 พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 พระราชบัญญัติความรับผิดต่อความเสียหายที่่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ.ศ. 2551
01 มิ.ย. 2020
กฏหมายเกี่ยวกับธุรกิจอุตสาหกรรม
พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 พระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 พระราชบัญญัติจดทะเบียนเครื่องจักร พ.ศ. 2514 พระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. 2522 พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 พระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2522 พระราชบัญญัติการส่งออกไปนอก และการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522 พระราชบัญญัติสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2530 พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2535 พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 พระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2542 พระราชบัญญัติการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2543 พระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ พ.ศ. 2551 พระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560
01 มิ.ย. 2020
กฏหมายเกี่ยวกับธุรกิจการค้าและการบริการ
พระราชบัญญัติควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่า พ.ศ. 2474 พระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าขาออก พ.ศ. 2503 พระราชบัญญัติโรงรับจำนำ พ.ศ. 2505 พระราชบัญญัติหอพัก พ.ศ. 2507 พระราชบัญญัติการประกอบอาชีพงานก่อสร้าง พ.ศ. 2522 พระราชบัญญัติกควบคุมการฆ่าสัตว์และจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. 2535 พระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. 2542 พระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542 พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 พระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 พระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550 พระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551
01 มิ.ย. 2020